ุ
นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ จะหารือกับชาวนา โรงสี และผู้ส่งออกข้าว เพื่อชี้แจงแนวทางการจัดทำโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลในระยะสั้นและระยะยาว และรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ยอมรับแนวทางการจัดทำโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 56/57 ที่ต้องปรับเปลี่ยนราคาและหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ คาดว่าน่าจะสรุปได้ภายในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ศึกษาถึงวิธีการว่าทำอย่างไรจะไม่กระทบต่อรายได้เกษตรกรและงบประมาณของรัฐบาล ส่วนการหารือกับภาคเอกชนและเกษตรกรก็เพื่อลดกระแสการโจมตีโครงการรับจำนำข้าว หากทุกฝ่ายรับข้อมูลที่ถูกต้อง ปัญหาจะเบาบางลงแน่นอน

ด้าน น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในการหารือกับเกษตรกรวันที่ 10 ก.ค.นี้ จะเสนอแนวคิดกำหนดราคาเป็นขั้นบันได โดยเกษตรกรรายย่อยที่มีพื้นที่น้อยไม่ถึง 5-10 ไร่จะได้ราคาจำนำสูงกว่าเกษตรกรที่มีพื้นที่มากกว่า ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาในการหาข้อสรุป เพราะในทางปฏิบัติการปรับปรุงหลักเกณฑ์รับจำนำต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลให้ดีก่อนที่จะดำเนินการได้ เพราะขณะนี้ข้อมูลขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ยังไม่เชื่อมโยงกัน รวมทั้งการหามาตรการช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกร เพราะหากลดต้นทุนได้จนเป็นที่พอใจ ความร่วมมือด้านราคาก็จะง่ายขึ้น

“การกำหนดราคาเท่าไหร่ จะต้องยึดเรื่องต้นทุนเป็นหลัก และราคาจำนำที่เหมาะสมคำนวณจากต้นทุนบวกกำไรให้อีก 25% ซึ่งต้องหารือกันอีกหลายรอบถึงจะสรุปได้ว่าราคารับจำนำจะเป็นเท่าไหร่ และเงื่อนไขการรับจำนำจะปรับส่วนใดบ้าง ปลายเดือน ก.ค.นี้น่าจะเห็นเงื่อนไขเบื้องต้น”

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้จะหารือกับสมาคมชาวนาไทย เพื่อเตรียมกำหนดราคารับจำนำข้าวฤดูกาลใหม่ปีการผลิต 56/57 ส่วนเรื่องการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล ในฐานะประธานคณะกรรมการระบายข้าวโดยตำแหน่ง แทนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์นั้น สัปดาห์นี้คงจะหารือกับเจ้าหน้าที่ก่อน คงใช้เวลาการหารือหลายครั้ง ซึ่งล่าสุดเตรียมแผนการระบายข้าวไว้หลายแนวทาง โดยเฉพาะการระบายข้าวนึ่ง ได้มอบหมายให้นายยรรยงไปดำเนินการแล้ว ส่วนข้าวสาร 2.5 ล้านตันที่หายไปจากบัญชี หลังจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีข้าวพบความผิดปกตินั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีมากถึง 40,000-50,000 แผ่น จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบก่อน คาดว่าคงได้ข้อสรุปเร็วๆนี้

“วิธีการระบายข้าว ไม่ว่าจะเป็นแบบรัฐต่อรัฐ หรือแนวทางใด อะไรที่ไม่ดีหรือมีปัญหาในช่วงที่ผ่านมาก็ต้องเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น คงต้องคุยกับกรรมการก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ดีขึ้น จะต้องระบายข้าวให้ได้มากที่สุด โดยได้ราคาดีที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่จะไม่เป็นความลับ เพราะเป็นภารกิจสำคัญที่จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ซึ่งอาจประมูลเดือนละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 200,000-300,000 ตัน ในราคาที่ไม่ควรจะต่ำกว่าราคาตลาด คาดว่าจะเปิดประมูลครั้งแรกได้ปลายเดือน ก.ค.นี้ โดยการประมูลจะประกาศราคาต่ำสุด ไม่ใช่ขายทิ้งๆ ขว้างๆ รวมถึงจะประกาศข้อมูลการระบายข้าวต่างๆ ให้สาธารณชนรับทราบ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้รับรู้และเข้าร่วมประมูล เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด”

นอกจากนี้ จะเร่งรัดให้ส่งมอบข้าวสารให้ผู้ซื้อตามสัญญา และจะแบ่งคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ กระจายออกไปเจรจาขายข้าวในเชิงรุก พร้อมกับจะเปิดเผยข้อมูลตามสัญญาการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ทั้งข้อมูลประเทศผู้ซื้อและปริมาณข้าวที่ขายไป แต่คงไม่สามารถเปิดเผยราคาได้ เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายว่าจะส่งเงินคืนกระทรวงการคลังได้จำนวนเท่าใด แต่รัฐบาลตั้งใจจะระบายข้าวให้ได้ปริมาณมากที่สุด และได้ราคาดีที่สุด เพราะข้าวไทยมีคุณภาพดีกว่าทุกประเทศ ส่วนสถานการณ์ตลาดข้าวโลกนั้น ล่าสุดประเทศอินเดียมีสต๊อกข้าวน้อยลง ส่วนเวียดนามที่ผลิตข้าวออกมาก็ขายไปเกือบหมดแล้ว และผลผลิตข้าวโดยรวมในตลาดโลกไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ประเทศไทยจึงน่าจะระบายข้าวได้ดีขึ้น

ส่วน พ.ต.ท.ไพโรจน์ ปัญจประทีป ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) กล่าวว่า อคส.รับมอบนโยบายจากนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ให้เร่งดำเนินการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ ณ จุดรับจำนำ ให้ครบทั้งหมดทั่วประเทศ ก่อนฤดูการรับจำนำข้าวเปลือกรอบใหม่ปี 56/57 จะเริ่มช่วงปลายปีนี้ โดยขณะนี้ได้ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์และเชื่อมโยงข้อมูลการรับจำนำมายังกระทรวงพาณิชย์แล้ว 650 จุด ซึ่ง อคส.จะเร่งของบประมาณเพิ่มเติมในการจัดซื้อและติดตั้งให้ครบจุดรับจำนำที่เข้าโครงการกว่า 1,000 จุด พร้อมกันนี้ อคส.กำลังหารือ อ.ต.ก. เพื่อร่วมมือจัดทำแนวทางในการเชื่อมโยงข้อมูลและแนวทางปฏิบัติในการรับจำนำ

“อคส.ยังได้รับมอบหมายให้จัดหาวิธีการในการป้องกันการทุจริตจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือก คาดว่าจะได้ข้อสรุปและนำเสนอ รมว.พาณิชย์ ในสัปดาห์นี้”

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์