ุ
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (9 ต.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าว (กขช.)หารือเรื่องการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2556/57 ที่เปิดมาตั้งแต่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่พบว่ายังมีปัญหาการดำเนินการอยู่หลายประเด็น
ส่วนกรณีที่ชาวนาอ้างว่าหลังนำข้าวมาร่วมโครงการแล้ว แต่ไม่ได้รับการยืนยันว่าจะได้รับเงินค่าข้าว เพราะเจ้าหน้าที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชี้แจงว่ายังไม่ได้รับเงิน สำหรับโครงการรับจำนำรอบนี้นั้น เป็นเรื่องที่ ธ.ก.ส.ต้องไปแก้ปัญหา เพราะในหลักการข้อสรุปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)กำหนดให้กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหาเงิน 2.7 แสนล้านบาทเพื่อดำเนินการตามโครงการนี้
"อยากให้ฟังฝ่ายนโยบายที่ได้ข้อสรุปชัดเจนใครทำหน้าที่อะไร แต่ละคนก็อาจพูดแต่ปัญหาของตัวเอง อยากให้ฟังหูไว้หู ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้จ่ายคืนให้ไปแล้ว 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งเงินที่ใช้ใน 2 โครงการที่ผ่านมา โครงการละ 3 แสนล้านบาท รวม 6 แสนล้าน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราขาดทุน 4 แสนล้าน เพราะต้องรวมมูลค่าข้าวในสต็อกอีกด้วย"นายนิวัฒน์ธำรง
กระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับทางการจีน ซื้อข้าวจากไทย 1.2 ล้านตัน และสินค้าเกษตรอื่นๆ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสองฝ่ายจะมีการลงนามในสัญญาซื้อขายจริงภายในเดือน ต.ค.นี้ และยืนยันว่าการซื้อข้าวจากจีนเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แค่การลงนามในเอ็มโอยูเท่านั้น
ส่วนกระแสข่าวการปรับครม.นั้นในส่วนของตน ทำงานเต็มที่ ส่วนประชาชนมีสิทธิแสดงความเห็นและไม่รู้สึกกดดันอะไร ยืนยันว่ายังมีกำลังใจ 100% เต็ม ที่ผ่านมาทำหน้าที่อย่างโปร่งใสและเข้ามาจัดการระบบงานต่างๆ เป้าหมายหลักคือการยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรและการดูแลประชาชนทั่วไป
นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า(อคส.) กล่าวว่า ขณะนี้มีจุดรับจำนำที่สามารถเปิดทำการได้จริงทั่วประเทศประมาณ 18-19 แห่ง จากทั้งหมดที่อคส. อนุมัติให้โรงสีเข้าร่วมโครงการ 250 แห่ง มั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้โดยเร็ว ทันในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดจำนวนมากปลายปีนี้
"ผมเร่งเซ็นให้โรงสีร่วมโครงการรับจำนำให้เร็วที่สุด ตรวจสอบครบถ้วนแล้วก็อนุมัติให้ทันที แต่ที่เปิดรับจำนำข้าวได้จริงมี 18-19 แห่งเพราะติดปัญหาพวกเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งใช้เวลาแก้ไขไม่นาน"นายชนุตร์ปกรณ์ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าโครงการจัดทำข้าวถุง "รวมใจ” บรรจุถุงละ 5 กิโลกรัม ที่มติครม.อนุมัติข้าวสารในสต็อกรัฐ 2 แสนตัน มาผลิตข้าวถุงจำนวน 40 ล้านถุง คาดว่าในสัปดาห์นี้ จะมีการออกร่างประกาศหลักเกณฑ์ (ทีโออาร์) คัดเลือกผู้ปรับปรุงและบรรจุข้าวถุง และกำหนดยื่นซองในวันที่ 15 ต.ค.นี้ หลังจากนั้นกระจายได้ภายในเดือนต.ค.นี้
ทั้งนี้ ในการจัดทำข้าวถุงรวมใจ เพื่อไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ในเรื่องสินค้าคงค้างและเสื่อมสภาพ จะมีการระบุเวลาการส่งมอบสินค้าและกระจายสินค้าในเวลาไม่เกิน 2 เดือน โดยอคส. จะลงนามว่าจ้างบริษัท ทีโอที จำกัด เป็นจุดรับคำสั่งซื้อ หรือ คอลล์เซ็นเตอร์ จากร้านค้าย่อยและรวบรวมข้อมูลจัดส่งมายัง อคส. เพื่อส่งให้ผู้ปรับปรุงข้าวและบรรจุถุงผลิต และกระจายถึงร้านภายใน 10 วัน
ส่วนการจัดการข้าวถุงถูกใจ บรรจุถุงละ 5 กิโลกรัมนั้น ยังคงค้างมีเพียง 8 แสนถุงหรือ 4,000 ตัน ไม่ได้ตกค้างสูงถึง 73 ล้านถุงอย่างที่มีกระแสข่าว โดยแยกเป็น 3 แสนถุง ที่รอการระบาย และ 5 แสนถุง อยู่ในการปรับปรุงและส่งมอบให้รัฐ ซึ่งกรมการค้าภายในและอคส.กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนเพื่อขออนุมัติในการบริหารจัดการและกระจายสินค้าในส่วนที่เหลืออย่างไร
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
|