ุ
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นายวันชัย ศิริวัฒนะตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนโยบายรัฐ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาเพิ่มวงเงินการค้ำประกันเงินกู้ให้ ธ.ก.ส.อีก จำนวนประมาณ 70,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในปีการผลิต 2555/56 ซึ่งเมื่อรวมกับวงเงินการค้ำประกันที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้เดิมจำนวน 150,000 ล้านบาท จะทำให้วงเงินการค้ำประกันรวมสำหรับโครงการดังกล่าวเพิ่มเป็น 220,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในเงินกู้ค้ำประกันจำนวน 150,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้เบิกเงินกู้ดังกล่าวมาใช้สำหรับโครงการรับจำนำแล้วจำนวน 55,000 ล้านบาท ในส่วนที่เหลือจะทยอยเบิกตามความต้องการใช้เงิน

สำหรับสาเหตุที่ต้องเพิ่มวงเงินการค้ำประกัน เพราะกระบวนการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีในปีการผลิตดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยล่าสุด ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการรับจำนำข้าวในฤดูการผลิตดังกล่าวไปแล้ว 7.54 ล้านตันคิดเป็นเม็ดเงิน 113,000 ล้านบาท ทำให้สภาพคล่องที่มีเริ่มลดลง ขณะที่เม็ดเงินที่กระทรวงพาณิชย์ตกลงจะคืนมาให้จากการระบายข้าวนั้น ก็มีเข้ามาเพียง 409,000 ล้านบาทเท่านั้น จึงจำเป็นที่กระทรวงการคลังจะต้องจัดหาเงินกู้มาเพิ่ม

“ธ.ก.ส.พยายามเร่งรัดไปยังกระทรวงพาณิชย์ให้นำเงินที่ได้จากการระบายข้าวมาคืนให้แก่ ธ.ก.ส.เพื่อให้ ธ.ก.ส.ได้นำไปใช้สำหรับการจำนำข้าวฤดูการผลิตนี้ ขณะที่ กระทรวงการคลังเองก็กำลังดูว่า จำเป็นต้องมาช่วยหนุน ซึ่งล่าสุดคุยกันว่า ระหว่างที่รอเงินจากการระบายข้าว คลังอาจต้องเพิ่มวงเงินค้ำประกันเงินกู้อีกจำนวนหนึ่งหรือประมาณ 70,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการจำนำข้าวรอบต่อไป”

ขณะนี้ สถานการณ์การรับจำนำข้าวจะเริ่มลดลง หลังจากที่เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวข้าวในภาคอีสานแล้ว และจะเริ่มใหม่ในช่วงปลายเดือน ม.ค.ถึงเดือน มี.ค. ซึ่งจะเป็นการเก็บเกี่ยวข้าวในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและตะวันตก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้าวนาปรังที่เก็บเกี่ยวในช่วงของข้าวนาปี ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะต้องมีเงินสภาพคล่องอีกประมาณ 130,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการรับจำนำข้าวในส่วนที่เหลืออีกจำนวนกว่า 8 ล้านตัน

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์