ุ
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์เตรียมหารือถึงการผลิตข้าวให้ตรงตามความต้องการของตลาด จากปัจจุบันผลิตได้มากแต่ยังไม่ตรงตามความต้องการ
นายวราเทพกล่าวถึงความคืบหน้าการลดต้นทุนการปลูกข้าวว่า ได้สั่งการให้กรมการข้าวเร่งลงพื้นที่และเพิ่มจำนวนหมู่บ้านที่มีความเหมาะสมในการปลูกข้าวด้วยวิธีที่ถูกต้องเพื่อลดต้นทุน พร้อมทั้งพิจารณาพันธุ์ข้าวที่เหมาะแก่การปลูกในพื้นที่นั้นๆ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น "หลังเพิ่มคุณภาพข้าว ลดต้นทุนการผลิต และสนับสนุนด้านการตลาดแล้ว มีความเป็นไปได้ว่าในอีก 3 ปี โครงการรับจำนำข้าวอาจไม่ต้องดำเนินการต่อ เพราะถือว่ารัฐบาลได้ยกระดับรายได้เกษตรกรแล้ว" นายวราเทพกล่าว และว่า ในฤดูกาลใหม่นี้ มั่นใจว่าการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจะลดลงมากเพราะได้เตรียมการดำเนินงานที่รัดกุมมากขึ้นแล้ว
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 สิงหาคมนี้ เรื่องโครงการประกันภัยข้าวนาปีฤดูการผลิต 2556/57 หลังได้รับรายงานผลสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยใช้วิธีแบ่งพื้นที่และคิดเบี้ยประกันตามความเสี่ยงไปก่อนเพื่อให้ทันฤดูกาลผลิตที่จะถึง ส่วนการประกันภัยข้าวทั้งระบบน่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า
แหล่งข่าวจากวงการประกันภัยกล่าวว่า จากการหารือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) บริษัทประกันภัย และกระทรวงการคลังได้ข้อสรุปเกี่ยวกับโครงการประกันภัยข้าวนาปีฤดูการผลิต 2556/57 แล้ว เบื้องต้นจะแบ่งพื้นที่เป็น 5 โซน โดยเกษตรกรจะจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อยตามความเสี่ยงของพื้นที่เพาะปลูก
แหล่งข่าวกล่าวว่า การแบ่งโซนประกอบด้วย พื้นที่สีเขียวอ่อน มีค่าเบี้ยต่ำสุดที่ 120 บาทต่อไร่ แต่เกษตรกรยังเสียค่าเบี้ยประกันเท่าเดิม 60 บาทต่อไร่ พื้นที่สีเขียวค่าเบี้ย 230 บาทต่อไร่ เกษตรกรเสียเพิ่มเป็น 70 บาทต่อไร่ สีเขียวเข้ม 350 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่าย 80 บาทต่อไร่ สีเหลือง 440 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่าย 90 บาทต่อไร่ และพื้นที่เสี่ยงภัยสูงสุดคือสีแดง เป็นพื้นที่แถบภาคกลาง อัตราค่าเบี้ย 470 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่าย 100 บาทต่อไร่เท่านั้น ที่เหลือรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเพื่อจูงใจให้เกษตรกรเข้ามาอยู่ในระบบประกันภัย คาดจะใช้เงินภาครัฐประมาณ 300-450 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะช่วยแบ่งเบาภาระให้ลูกค้าในอัตรา 10 บาทต่อไร่เหมือนเดิม
ที่มา นสพ.มติชน
|