ุ
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้ขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก 2 ฤดูกาลผลิต เป็นเงิน 4.25 แสนล้านบาท ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน โดยการรับจำนำข้าว 2 ปี ใช้เงินไปรวม 6.79 แสนล้านบาท ปีแรกใช้ไป 3.3 แสนล้านบาท ปีที่ 2 ใช้เงินไปกว่า 3.4 แสนล้านบาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขาดทุนเฉลี่ยปีละ 2.2 แสนล้านบาท เพราะหากคิดเช่นนั้นหมายความว่าขายข้าวได้แค่ปีละ 1.2 แสนล้านบาท หรือ 35% เท่านั้น แต่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้ปิดบัญชีการรับจำนำข้าวเพราะยังขายข้าวไม่หมด
อย่างไรก็ตาม นายนิวัฒน์ธำรงยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการขาดทุนจริง โดยรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณรองรับการขาดทุนไว้ปีละ 8 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อดำเนินการจริงคาดว่าการขาดทุนจะมากกว่าปีละ 1 แสนล้านบาท
“ตัวเลขนี้ได้บวกค่าดำเนินการและดอกเบี้ยไปแล้ว ซึ่งตัวเลขเรื่องการขาดทุนก็ยังมีตัวเลขแตกต่างกันระหว่างคณะกรรมการปิดบัญชีของกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากมีการคำนวณสต๊อกข้าวของรัฐที่แตกต่างกัน” นายนิวัฒน์ธำรง ชี้แจง
นายนิวัฒน์ธำรง ชี้แจงอีกว่า โครงการรับจำนำข้าวต้องดูโครงการทั้งระบบว่าได้ประโยชน์อย่างไร แม้จะขาดทุนปีละ 1 แสนล้านบาท แต่ชาวนาได้ประโยชน์ ได้เงินไปจับจ่ายใช้สอย เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน 4 รอบ เม็ดเงิน 1 แสนล้านบาท ก็เท่ากับ 1% ของจีดีพี และโครงการนี้ไม่อยากให้ดูเรื่องกำไรขาดทุน เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้ที่มีเสถียรภาพ
“รัฐบาลจะยังเดินหน้ารับจำนำข้าว ต่อไป เพราะชาวนาได้ประโยชน์ได้เงินจำนำร้อยเปอร์เซ็นต์ ช่วยทำให้ชาวนามีเสถียรภาพ แต่หากเปลี่ยนการช่วยเหลือเป็นรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นราคาตลาด คำนวณตามต้นทุน 6,000-7,000 บาทต่อตัน แล้วรัฐเติมเงินเข้าไปให้ 2,000-5,000 บาทต่อตัน อำนาจก็อยู่กับผู้ซื้อ เกษตรกรก็ไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ ที่สำคัญงบไม่ได้ถูกจำกัด” นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า พร้อมจะจ่ายเงินให้กับเกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าวในวันที่ 21 ต.ค.นี้ ตามกระบวนการจ่ายเงินแบบเดิม โดยระยะเวลา 2 ปี ธ.ก.ส.โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรแล้วกว่า 4 ล้านราย เป็นเงินกว่า 6.79 แสนล้านบาท แต่ฐานะการเงินธนาคารยังคงแข็งแกร่ง
ที่มา โพสต์ทูเดย์
|