ุ
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประ ธานการประชุมสภาฯ พิจารณากระทู้ถามสดเรื่องการทุจริตโครง การรับจำนำข้าว ของนายยุพราช บัวอินทร์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ ถามนายกรัฐมนตรีว่า ในทางปฏิบัติมีการทุจริตทุกขั้นตอนและการดำเนินการมีการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง จึงไม่อยากให้เอาภาษีประชาชนไปปู้ยี่ปู้ยำ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้ชี้แจงแทนว่า รัฐบาลเข้ามาบริ หารงานมีข้าวในสต็อก ซึ่ งเป็นข้าวเก่ามาจากรัฐบาลชุดก่อนอยู่ 2 ล้านตันเศษ โดยในการระบายข้าวในรอบปี รัฐบาลมีการระบายข้าวค้างเก่า จำนวน 2.195 ล้านตัน ไป 1.851 ล้านตัน และจากการรับจำนำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวนาปี 54 /55 และ 55/56 จำนวน 13 ล้านตัน ระบายข้าวออกไปแบบจีทูจี จำนวน 4.034 ล้านตัน และระบายข้าวภายในประเทศ 0.466 ล้านตัน และระบายข้าวให้องค์กรต่างๆ 2.572 ล้านตัน รวมทั้งสิ้นเป็น 7 ล้านตัน คิดเป็นจำนวน 120,637 ล้านบาท

จากนั้นนายยุพราชถามต่อว่า ที่ผ่านมาคนในรัฐบาลออกมาให้ข่าวว่าจะมีการปรับลดเพดานการรับจำนำข้าวจาก 1.5 หมื่นบาท เป็น 1.3 หมื่นบาทต่อตัน ซึ่งสร้างความเสียหายให้ กับชาวนา จึงอยากให้รัฐบาลทบทวน โดยนายณัฐวุฒิชี้แจงว่า โครงการรับจำนำข้าวโดยหลักการ เป็นการรักษาเสถียรภาพราคา และที่ผ่านมาการดำเนินการแบบนี้แทบ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็อยู่ในภาวะขาดทุน เพราะเป็นความตั้งใจของรัฐบาลในการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระเกษตรกร ซึ่งโครงการประกันราคาพืชผล ทางการเกษตรก็อยู่ในภาวะขาดทุน แต่ โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มีการเอาเงินจากรัฐไปช่วยสนับสนุนเกษตรกร และเอาเงินจากเอกชนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาหมุนเวียน แต่ยังไม่สามารถสรุปกำไรและขาดทุนได้ เนื่องจากยังไม่สิ้นสุดโครงการ

"ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะลดเพดานจำนำข้าวเหลือ 1.3 หมื่นบาทต่อตันนั้นก็ไม่เป็นความจริง เป็นสิ่งที่ปลัดกระทรวงพา ณิชย์ระบุ แต่มีคนสะท้อนมาเท่านั้นเอง ยืนยันว่าการจำนำข้าวยังอยู่ที่ราคาเดิมคือตันละ 1.5 หมื่นบาท"

ที่มา ไทยโพสต์