ุ
นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่จะให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) สามารถนำข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวไปจ่ายค่าเช่าให้กับภาคเอกชนเจ้าของโกดังและเจ้าของโรงสีที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อลดงบประมาณรายจ่ายด้านการเช่า รวมถึงสามารถระบายข้าวได้อย่างรวดเร็วและลดพื้นที่การเก็บข้าวในโกดัง เบื้องต้นภาครัฐจะคิดค่าข้าวตามราคาตลาดโลกเฉลี่ย 15 วัน โดยจะเริ่มในฤดูการผลิตปี 56/57 นี้

ทั้งนี้เจ้าของโรงสีหรือโกดังส่วนใหญ่สนใจในแนวคิดดังกล่าวมาก เพราะจะได้เงินเร็วกว่าที่จะต้องรองบประมาณจากภาครัฐ และที่สำคัญโรงสีหรือโกดังข้าวจะมีความเชื่อมโยงกับผู้ส่งออกข้าวที่ในปัจจุบันมีคำสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) จากต่างประเทศจำนวนมากแต่ไม่มีข้าวที่จะส่งออก หากโรงสี หรือโกดังขายข้าวให้กับผู้ส่งออกก็จะทำให้กลุ่มผู้ส่งออกข้าวสามารถทำตลาดได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

"การจ่ายค่าเช่าโกดังให้กับภาคเอกชนเป็นข้าวแทนเงินสดนั้น ถือเป็นเรื่องปกติและสามารถทำได้โดยความสมัครใจของโกดังหรือโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกับรัฐบาล เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ และเป็นช่องทางการระบายข้าวของรัฐบาล โดยในปัจจุบันพบว่า อคส. มีการค้างค่าเช่าแก่โกดังประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนราคาข้าวที่จะนำข้าวไปจ่ายค่าเช่านั้นข้าวใหม่ที่กำลังจะออกมาจะมีราคาที่แพงกว่าข้าวเก่า"

สำหรับปริมาณข้าวสารฤดูการผลิตปี 56/57 คาดว่าจะมีปริมาณข้าวเปลือกเข้าสู่โครงการกว่า 10 ล้านตัน หรือคิดเป็นปริมาณข้าวสาร 6-7 ล้านตัน โดยได้กำชับให้ อคส. และ อ.ต.ก. เข้มงวดเรื่องคุณภาพข้าวที่จะเข้าสู่โครงการให้มากขึ้น

นายยรรยง กล่าวว่า ในส่วนแนวทางในการบริหารจัดการข้าวเก่าที่อยู่ในสต๊อกก่อนปี 54 ประมาณ 48,000 ตัน ซึ่งบางส่วนอาจเสื่อมคุณภาพนั้น ในอนาคตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามจะป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว

ขณะเดียวกัน อคส. ได้มีการนำระบบไอทีเข้ามาเสริมใน การตรวจเช็ก ตรวจสอบการรับจำนำข้าว ปริมาณข้าว รวมทั้งเรื่องของการออกใบประทวน และให้ อคส.สามารถจัดตั้งบริษัทลูก เพื่อเข้าไปร่วมทุนหรือลงทุนร่วมกับพันธมิตร ในการจัดสร้างคลังสินค้าระดับมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้ อคส.สามารถดูแลคลังสินค้าได้เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้การจัดการสินค้าข้าวที่ฝากในโกดังกลางได้อย่างรัดกุม

นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า อคส.มีความพร้อมในการเปิดรับจำนำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวฤดูการผลิต 56/57 ของรัฐบาลที่จะเริ่มในเดือน ต.ค. นี้โดยทาง อคส.จะนำเอาระบบไอที มาใช้ในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะทำให้ผู้บริหารสามารถรับรู้ข้อมูลทั้งหมดในโครงการที่ทันสมัยและรวดเร็วมากขึ้นโดยจะช้ากว่าสถานการณ์จริงไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งมั่นใจว่าจะป้องกันการทรุจริตในโครงการได้ โดยเฉพาะการออกใบประทวนที่จะช่วยลดการสวมสิทธิของเกษตรกร เบื้องต้นจะนำระบบไอทีมาใช้ได้เต็มรูปแบบได้ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 57

"โกดังที่จะใช้ในการเก็บข้าวที่จะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวในฤดูกาลใหม่นี้ มั่นใจว่าเพียงพอ เพราะกรอบรับจำนำข้าวต่อครัวเรือนจะลดลง รวมทั้งการรับจำนำครั้งนี้ยังได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการ โดยให้ผู้ส่งออกสามารถรับข้าวได้ที่โรงสีเพื่อลดการจัดเก็บในโกดังกลาง ที่สำคัญรัฐได้เร่งระบายข้าวโดยวิธีโรดโชว์ไปทั่วโลก"

นอกจากนี้ ยังเปิดเวทีหารือกับผู้ประสานงานกับ อคส.ประจำจังหวัดทั่วประเทศกว่า 300 คน เกี่ยวกับการปรับปรุงการรับจำนำสู่ระบบออนไลน์ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจก่อนการเปิดรับจำนำข้าวของรัฐบาล พร้อมทั้งเร่งชี้แจงขั้นตอนการทำงานกับกลุ่มโรงสี คลังสินค้าให้ และบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าวหรือเซเวอร์เยอร์ เพื่อให้มีความพร้อมในการรับจำนำปีหน้า

ที่มา เดลินิวส์