ุ
วันที่ 25 ตุลาคม 2556 กระทรวงพาณิชย์จะทำการเปิดประมูลข้าวผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟท) ครั้งแรกของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ปริมาณทั้งสิ้น 140,443.790 ตัน โดยเป็นข้าวขาว 5%?จำนวน 109,775.065 ตัน จากคลังในจังหวัดนครสวรรค์ สุพรรณบุรี ชัยนาท และสระบุรี ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวน 30,668.725 ตัน จากคลังในจังหวัดอุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์ โดยกระทรวงพาณิชย์หวังว่าจะได้รับความสนใจจากเอกชนเข้าร่วมการประมูลมากกว่าการเปิดประมูลที่ผ่านมา
ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการโรงสีข้าวกลับมองว่าการประมูลข้าวครั้งนี้จะไม่คึกคัก เพราะในขณะนี้ข้าวสารในตลาดสามารถหาซื้อได้ง่าย มีราคาถูก เพียงกิโลกรัมละ 12 บาท และทางโรงสีเองก็ต้องสำรองเงินไว้เพื่อซื้อข้าวจากเกษตรกรที่เป็นส่วนเกินจากโครงการรับจำนำโดยตรง เนื่องจากโครงการรับจำนำฤดูกาลผลิต 56/57 มีการจำกัดวงเงินที่ 350,000 บาทต่อรายเท่านั้น แต่ก็เชื่อว่าอาจจะมีผู้ประกอบการข้าวถุงเข้าร่วมการประมูลมากกว่า เพราะผู้ประกอบการอาจต้องการซื้อข้าวเก็บไว้เพื่อสต๊อกไว้
ด้านผู้ประกอบการส่งออกข้าว ก็ให้ความเห็นในทำนองเดียวกันว่าการประมูลข้าวในครั้งนี้จะได้รับความสนใจน้อย และแม้ว่าจะได้ข้าวราคาถูกก็ไม่ได้ช่วยให้การส่งออกง่ายขึ้น เนื่องจากคู่แข่งของไทยมีการส่งออก ขายข้าวในราคาที่ถูกกว่าข้าวของไทยอยู่แล้ว
นายสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการข้าวถุงมาบุญครอง กล่าวว่า บริษัทได้ตัดสินใจที่ไม่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ เพราะหลังจากที่ได้ไปสำรวจคุณภาพข้าวที่กระทรวงพาณิชย์นำออกมาประมูล ยังไม่ตรงกับความต้องการของทางบริษัท ประกอบกับการที่ข้าวในฤดูกาลใหม่กำลังจะออกในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นข้าวใหม่และมีคุณภาพ จึงเห็นว่ากระทรวงพาณิชย์เลือกช่วงจังหวะที่เปิดประมูลไม่เหมาะสมนัก
“แม้ว่าข้าวในตลาดจะหาซื้อไม่ง่าย แต่ข้าวฤดูกาลใหม่กำลังจะออกมาในตลาด และการที่รัฐเลื่อนการประมูลออกมาก็พอเข้าใจว่ามีเหตุและปัจจัยอื่นประกอบ รวมถึงข้าวที่นำออกมาประมูลยังไม่ตรงกับความต้องการด้วย
ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า
|