ุ
"นิวัฒน์ธำรง"เผยรัฐบาลอิหร่านเซ็นสัญญาซื้อข้าวไทยแบบจีทูจี 5 แสนตัน ส่งมอบภายใน 6 เดือน เริ่มล็อตแรกเดือนต.ค.นี้ 2.5 แสนตัน ตั้งเป้า 2 ปีขายอีก 2 ล้านตันยันส่งออกปีนี้ 8.5 ล้านตัน พร้อมเปิดประมูลวันนี้ 3.5 แสนตัน มั่นใจจะมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ขณะที่"สุภา"ยอมรับคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวยังปิดบัญชีไม่สำเร็จ เหตุพาณิชย์ยังไม่ส่งข้อมูล
หลังจากนำคณะเจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศทางเดินเยือนประเทศอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมีการเจรจาขายแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ในเรื่องดังกล่าว นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มีการเจรจาขายข้าวแบบจีทูจี จนมีการทำสัญญาขายข้าวสาร 100% ชั้น 2 ในปริมาณ 5 แสนตัน เป็นข้าวขาว 100% ให้กับหน่วยงานจัดซื้อข้าวของรัฐบาลอิหร่าน หรือ GTC ซึ่งจะส่งมอบภายใน 6 เดือน
โดยล็อตแรกจะส่งมอบเดือนต.ค.นี้ ปริมาณ 2.5 แสนตัน การระบายข้าวครั้งนี้ เป็นการขายจีทูจีระหว่างรัฐบาลไทย-อิหร่านครั้งแรกรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2550 หลังจากนี้จะเปิดให้ภาคเอกชนเข้าร่วมประมูลปรับปรุงคุณภาพข้าว เพื่อส่งมอบอิหร่านให้เป็นไปตามสัญญา
"ผมกับคณะได้พบประธานาธิบดีอิหร่านก่อนลงนามซื้อขาย ซึ่งอิหร่านต้องการซื้อข้าว 1 ล้านตันช่วง 2 ปี ยินดีซื้อข้าวล็อตแรกจากไทย 2.5 แสนตัน ยังสนใจซื้อสินค้าเกษตรอีกหลายรายการ เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง เป็นราคาที่ส่งถึงบ้านหรือซีแอนด์เอฟ ไม่สามารถเปิดเผยราคาได้ เนื่องจากอิหร่านไม่ต้องการให้เปิดเผยราคาการซื้อขาย เพราะถือเป็นความลับทางการค้า รวมทั้งเป็นผลดีกับไทย ในการเจรจาขายข้าวจีทูจีกับประเทศอื่นๆ ด้วยกำหนดการชำระเงินรูปแบบส่งถึงบ้าน แต่ปัญหาข่าวสารข้าวไทยเน่าเสียและมีพิษทำให้อิหร่านยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อขอลดราคา การเสนอข่าวกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศมาก" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
คงเป้าส่งออกข้าว 8.5 ล้านตัน
ส่วนแผนการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ยังเป็นไปตามกรอบเดิม มีทั้งการประมูลข้าวสาร 5% ปลายข้าวเอวันเลิศ และข้าวนึ่ง ควบคู่ไปกับการระบายแบบจีทูจี หลังจากนี้ก็จะเดินทางไปเจรจากับหลายประเทศ อาทิ จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย จะพยายามผลักดันให้มีการระบายให้มากที่สุด โดยกระทรวงฯยังคงเป้าหมายการส่งออกข้าวในปีนี้ที่วางไว้ 8.5 ล้านตัน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า อินโดนีเซีย ปฏิเสธที่จะให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯที่เดินทางไปล่วงหน้าเข้าพบนั้น ไม่เป็นความจริง ทุกคนได้เข้าพบ คาดว่าจะมีข่าวดีจากการเจรจาซื้อขายข้าวเร็วๆ นี้
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่าสำหรับการหารือกับนายมะห์มูด อะห์มาดิเนจาด ประธานาธิบดีอิหร่าน และนายเมห์ดี กาซานฟารี รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการค้า ทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมที่จะผลักดันความร่วมมือในการขยายความสัมพันธ์ด้านการค้า การลงทุนระหว่างกัน ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้า
เปิดรับซองประมูลข้าว3.5แสนตันวันนี้
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวอีกว่าวันนี้ (26 ก.ค.) จะเปิดรับซองประมูลข้าวกว่า 3.5 แสนตัน เป็นข้าวขาว 1.5 แสนตัน และปลายข้าวขาวเอวันเลิศอีก 2 แสนตัน หวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูลเป็นจำนวนมาก การขายจะพิจารณาจากราคาที่เหมาะสมเป็นหลัก แต่ก็มีราคาที่ตั้งไว้เป็นเกณฑ์อยู่แล้ว ใครให้ราคาดีก็จะขาย ส่วนการประมูลข้าวเปลือกเจ้า เพื่อนำไปทำข้าวนึ่งจำนวน 2 แสนตัน จะเปิดรับซองประมูลวันที่ 29 ก.ค.นี้ หวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวนมากเช่นกัน
นอกจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศ จะเปิดให้มีการประมูลมันเส้นในสต็อกที่เหลือ 2 แสนตัน คาดจะประกาศเปิดประมูลได้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนการส่งเงินคืนคลัง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลให้ขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน
นางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวถึงการส่งมอบข้าวที่ได้ลงนามขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.) ว่ามีการส่งมอบไปแล้ว 3 ล้านตัน ส่วนการทำสัญญาจีทูจีใหม่มี 2 ฉบับ คือ ขายให้กับรัฐบาลจีนในปริมาณ 5 ล้านตันใน 3 ปี และอิหร่าน 2.5 แสนตัน และยังอยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญาอีกหลายประเทศ
"การเปิดให้เอกชนเข้าร่วมเสนอราคาปรับปรุงข้าวส่งมอบอิหร่าน น่าจะออกประกาศได้เร็วๆนี้ เอกชนต้องดำเนินการตั้งแต่รับมอบข้าวจากคลังปรับปรุงส่งมอบลงเรือ และชำระเงิน ส่วนกรณีที่มีการคว่ำบาตรเรื่องการเงินของอิหร่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขายข้าว เพราะข้าวเป็นสินค้าอาหาร จำเป็นต้องบริโภคจึงได้รับการยกเว้น"นางปราณี กล่าว
"สุภา"รับข้อมูลปิดบัญชีโครงการข้าวไม่ได้
นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมคณะอนุกรรมการฯ หลังมีการตรวจสอบสต็อกข้าว ว่าการประชุมครั้งนี้ ยังไม่สามารถปิดบัญชีโครงการได้ เนื่องจากข้อมูลการดำเนินโครงการยังไม่ครบ โดยเฉพาะในส่วนสต็อกข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ ที่ประชุมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอที่ประชุมอีกครั้งวันที่ 30 ก.ค.นี้
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงผลดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในฤดูการผลิต 2555/56 ว่าขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้รับจำนำข้าวไปแล้ว 21 ล้านตัน เป็นเงิน 3.1 แสนล้านบาท เป็นการรับจำนำข้าวนาปี15.03 ล้านตัน เป็นเงิน 2.3 แสนล้านบาท และข้าวนาปรัง 5.4 ล้านตัน เป็นเงิน 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดกรอบรับจำนำไว้ 22 ล้านตัน เป็นเงิน 3.4 แสนล้านบาท
นายสุพัฒน์ กล่าวตั้งแต่เริ่มต้นโครงการรับจำนำข้าวปี2554ถึงปัจจุบันใช้เงินไปแล้วประมาณ 6.5 แสนล้านบาท จากกรอบที่กำหนดไว้ที่ 5 แสนล้านบาท ส่วนที่เกินธ.ก.ส.ได้สำรองจ่ายจากสภาพคล่องของธนาคารไปก่อน ส่วนกรณีที่ครม.มีมติให้คุมวงเงินการรับจำนำไว้ 5 แสนล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งเงินคืนจากการระบายข้าวแล้ว 1.2 แสนล้านบาท จากเป้าหมายปีนี้ต้องคืน 2.2 แสนล้านบาท
ด้านนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าครม.มีมติให้ธ.ก.ส.ตรวจสอบข้อมูลการปลูกข้าวที่แท้จริงของเกษตรกร ก่อนที่จะจ่ายเงินรับจำนำ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ใช้เวลาตรวจสอบใบประทวนกับการปลูกข้าวจริงประมาณ 3 วัน แต่นับจากนี้จะเพิ่มระยะเวลาการตรวจสอบอีก 2 วัน จึงแจ้งให้เกษตรกรได้ทราบถึงระยะเวลาการจ่ายเงิน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|