www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

'โอฬาร'ชูส่งออกข้าวเชิงมูลค่ามากกว่าปริมาณ


นายโอฬาร ไชยประวัติ ประธานคณะผู้แทนการค้าไทย และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปาฐกถาเรื่อง"ยุทธศาสตร์การค้าข้าวของไทย"ในงาน"Thailand Rice Convention 2013" ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 27 พ.ค. ว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนำไปสู่การแบ่งกลุ่มตลาดข้าวตามภูมิภาคของโลก 4 กลุ่ม คือ เอเชียใต้ที่มีอินเดียเป็นผู้ส่งออดและมีเพื่อนบ้านเป็นผู้นำเข้า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มี ไทย เวียดนาม และพม่า เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ มีผู้นำเข้า คือ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และจีน กลุ่มตะวันออกกลางและแอฟริการ และกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ส่งออกหลัก และยุโรปเป็นผู้นำเข้า

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ด้านการตลาดข้าวต่างประเทศของไทยในภาวะที่กำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างตลาดโลก รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านคุณภาพและมาตรฐานข้าว รวมถึงผลิตภัณฑ์ข้าวของโลก ข้าวซึ่งมี 4 ประเภทหลัก คือ ข้าวขาวเมล็ดยาวคุณภาพทั่วไป ข้าวขาวคุณภาพสูง เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอมบาสมาตีนของอินเดีย-ปากีสถาน ข้าวเมล็ดสั้นคุณภาพสูง เช่น ช้าวเหนียวไทยและข้าวญี่ปุ่น และข้าวหัก จะมีตลาดหลักแยกตัวเป็นกลุ่มตามภูมิภาค เช่น เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออก ตะวันออกกลางและแอฟริกา อเมริกาและยุโรป โครงสร้างดังกล่าวทำให้ไทยกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อการผลิตและการขาย 4 ยุทธศาสตร์ 1.ยุทธศาสตร์การผลักดันการส่งออกในเชิงมูลค่า 2.ยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพมาตาฐานข้าวที่มาจากแต่ละท้องถิ่น 3. ยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดพิเศษใหม่ๆ และ4.ยุทธศาสตร์การแสวงหาความร่วมมือในระดับภูมิภาค

นายโอฬาร กล่าวอีกว่า ยุทธศาสตร์ไทยมีเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าและรักษาตลาดโดยเน้นการส่งออกในเชิงมูลค่าแทนการส่งออกในเชิงปริมาณ ซึ่งตลาดให้การยอมรับมายาวนานว่าข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ มีคุณภาพสูงและรสชาติดีที่สุด รวมทั้งจะจัดระบบการส่งออกให้มีประสิทธิภาพ และบทบาทสำคัญอีกประกาศของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์นี้ คือการส่งเสริมการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ยุทธศาสตร์ที่ 2 เน้นการพัฒนาภาพลักษณ์ข้าวไทยและส่งเสริมคุณภาพมาตรฐานข้าวที่แตกต่างของแต่ละท้องถิ่น โดยเฉพาะในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยพยายามประชาสัมพันธ์คำว่า"ข้าวหอมมะลิไทย" ซึ่งล่าสุดสหภาพยุโรปได้ประกาศรับรอง"ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้"ของไทยว่ามีเอกลักษณ์ของท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยตั้งเป้าหมายส่งเสริมให้มีการปรับปรุงพัฒนามาตรฐานข้าวของไทยให้เป็นที่ยอมรับ โดยเริ่มจาก1.กำหนดพื้นที่เพาะปลูก 2. ปรับมาตรฐานข้าวไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด 3.ควบคุมตรวจสอบคุณภาพข้าวไทยอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน และ 4.จัดตั้งห้องปฎิบัติการตรวจสอบคุณภาพข้าวคุณภาพสูงของไทย ส่วนยุทธศาสตร์การหาตลาดพิเศษใหม่ๆที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมจ่ายเงินส่วนเพิ่มให้กับคุณสมบัติเฉพาะบางอย่างที่มีกับสินค้า ส่วนยุทธสาสตร์สุดท้าย จะเร่งแสวงการความร่วมมือ โดยเฉพาะในปี 2558 ที่ไทยจะก้าวสู้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เอื้อประโยชน์ให้เกิดความเชื่อมโยงกับสมาชิกในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ไทยจะมุ่งเน้นส่งเสริมด้านการเกษตร รวมทั้งนำระบบเทคโนโลยีการผลิตและการบริหารจัดการที่มีอยู่ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ทั้ง พม่าและกัมพูชา ให้เป็นประเทศผู้ผลิตข้าวขาวเม็ดยาวที่มีคุณภาพ และขยายความร่วมมือไปยังเวียดยาม เพื่อทำให้ 4 ประเทศ คือ ไทย พม่า กัมพูชา และเวียดนาม กลายเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางด้านอาหาร และจะร่วมมือกับลาว เพื่อเป็นแหล่งผลิตข้าวเหนียวเมล็ดสั้นคุณภาพสูงด้วย

"ประเทศไทยคาดหวังทำให้อาเซียนกลายเป็นศูนย์กลางของการผลิตและการค้าข้าวที่สำคัญของโลก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดรายได้กระจายไปยังเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานและการผลิตการค้าข้าวของภูมิภาค และเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้เกิดกับชาตอสมาชิกอาเซียน ภูมิภาคและของโลก"นายโอฬาร กล่าว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2013 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.