ุ
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระแสข่าวสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือ เอฟดีเอ มีคำสั่งให้กักข้าวไทย ที่มาจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เนื่องจากพบว่ามีการใช้สารเคมีรมควัน และบางแห่งมีมอด รวมถึงเชื้อรานั้น ซึ่งจากการตรวจสอบกับทางสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ยังยืนยันใน 3 ประเด็น คือ 1.สหรัฐไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการปฏิบัติต่อข้าวไทย และในช่วงเดือนม.ค. –เม.ย. 2556 สหรัฐยังนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา 2.สหรัฐไม่ได้มีการกักข้าวจากประเทศไทย และ 3.สหรัฐจะทำงานร่วมกับไทยต่อไปเพื่อให้การนำเข้า-ส่งออกข้าว ระหว่างไทยและสหรัฐ มีมาตรฐานความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้มาจากคำสั่งของเอฟดีเอ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2556 ที่ให้มีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มาจากข้าวเพิ่มเติมจาก จีน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และไทย เนื่องจากพบสารเจือปน แต่ในปัจจุบันยังไม่พบรายชื่อของบริษัทไทยที่อยู่ในรายชื่อ “เรด ลิสต์” ที่จะต้องถูกกักสินค้าเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม

ทั้งนี้ รายชื่อของ 46 บริษัทไทย อยู่ในรายชื่อ “กรีน ลิสต์” ซึ่งหมายความว่าได้รับการงดเว้นการสุ่มตรวจจากเอฟดีเอ ซึ่งเขียนถัดลงมาจาก “เรด ลิสต์” ของเอฟดีเอ จึงอาจทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนเข้าใจผิด และกระทรวง ได้กำชับให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ที่กรุงวอชิงตัน และสถานกงสุลใหญ่ ในนครนิวยอร์ก ติดตามการรายงานของสื่อท้องถิ่นในสหรัฐอย่างใกล้ชิดด้วย

“กรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ก็ยืนยันว่า ข้าวไทยที่ได้รับการส่งออกไปสหรัฐนั้นมีราว 3-4 แสนตันต่อปี และได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดตามาตรฐานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานอาหารและยา (อย.)” นายเสข กล่าว

ที่มา โพสต์ทูเดย์