ุ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลไทย ที่ตั้งราคาข้าวไว้สูงเกินความจริง และดำเนินมานาน 2 ปีแล้วนั้น นอกจากจะเพิ่มความตึงเครียดให้กับสถานะทางการเงินของประเทศแล้ว ยังทำให้ไทยต้องหลุดจากสถานะผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่สุดของโลก และทำให้องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เกิดความกังวลต่อสถานการณ์นี้ด้วย

ผู้ผลิตข้าวรายอื่นๆ อย่างอินเดีย และเวียดนาม ที่ขยับเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดโลกที่ขาดหายไป จากการที่ผู้ส่งออกไทยหายไปจากตลาด ต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด ในกรณีที่ไทยอาจถูกบีบให้ต้องเทข้าวหลายล้านตันออกมาสู่ตลาดที่มีการจัดหาอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ราคาดิ่งลง

การเข้าแทรกแซงราคาข้าวของรัฐบาลไทย ที่โดนทั้งนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ หรือแม้กระทั่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาวิจารณ์อย่างต่อเนื่อง กำลังตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบในระดับโลกเพิ่มมากขึ้น

ระหว่างการหารือของคณะกรรมการด้านการเกษตร ของดับเบิลยูทีโอในสัปดาห์นี้ สหรัฐก็ได้ออกมาท้าทายไทยอีกครั้ง โดยจี้ให้ไทยอธิบายถึงแผนการที่วางไว้สำหรับการบริหารจัดการข้าวในโครงการรับจำนำดังกล่าว ซึ่งคาดว่า สต็อกข้าวของรัฐบาลไทยน่าจะอยู่ที่ราว 17 ล้านตัน มากสุดเป็นประวัติการณ์ และเกือบ 2 เท่าของปริมาณข้าวที่ไทยเคยส่งออกในแต่ละปี ก่อนที่จะเกิดโครงการดังกล่าวขึ้นมา

สหรัฐตั้งคำถามต่อไทยว่า ข้าวจากโครงการรับจำนำนั้น จะนำไปส่งออก หรือใช้บริโภคในประเทศ พร้อมชี้ว่า ก่อนหน้านี้ ไทยเคยระบุว่า จะมีการเผยแพร่ข้อมูลของโครงการดังกล่าว รวมถึงตัวเลขส่งออกข้าว ไว้บนเว็บไซต์ของรัฐบาล แต่ในขณะนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ยังไม่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการฟ้องร้องทางการค้าขึ้นมา จนกว่าไทยจะตอบคำถามดังกล่าวอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี ทั้งแคนาดา สหรัฐ และออสเตรเลีย ต่างเรียกร้องให้ไทยตอบคำถามดังกล่าวในทันที ขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) แสดงความกังวลต่อเรื่องข้างต้น และว่าไทยต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะปล่อยข้าวออกมาอย่างไร

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์