www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

เมียนมาร์-เขมร ท้าชิงแชมป์ส่งออกข้าว


Mr. Pwint San  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เปิดเผยในการประชุมข้าวโลก (ไทยแลนด์ ไรซ์ คอนเวนชั่น 2013) ที่จังหวัดเชียงใหม่ (27 พ.ค.56)ว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้เมียนมาร์มีการส่งออกข้าวไปแล้ว 1.5 ล้านตัน ถือเป็นปริมาณการส่งออกสูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ในปี 2020 (2563) ตั้งเป้าส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ล้านตัน และตั้งเป้าหลังจากนั้นจะส่งออกเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้เมียนมาร์มีเป้าหมายในปี 2565 จะกลับมาเป็นเบอร์หนึ่งในการเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวและเป็นเบอร์ 1 ของผู้ส่งออกข้าวในอาเซียน โดยการค้าข้าวของเมียนมาร์เป็นของเอกชน 100%  แต่รัฐบาลจะให้สนับสนุนเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่
    
ด้านนายกาน จันเมตา ปลัดกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ในปีการผลิต 2554/55 กัมพูชาผลิตข้าวเปลือกได้ปริมาณ 8.5 ล้านตัน ทั้งนี้กัมพูชาตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวในปี 2558 เป็น 1 ล้านตัน จากเดิมส่งออกเพียง  4 หมื่นตัน ซึ่งจะผลักดันให้กัมพูชาเป็นผู้ส่งออกข้าวอีกหนึ่งรายสำคัญของอาเซียน
    
ขณะที่ Mr.Sutarto Alimoeso ประธาน Perum Bulog อินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย ตั้งเป้าเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยส่งเสริมระบบชลประทานและตั้งเป้าในปี 2557 ผลผลิตข้าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 14 ล้านตัน    แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ  ซึ่งบทบาทของบูล็อก(องค์กรสำรองข้าวอินโดนีเซีย) ได้เน้นการบริหารจัดการสต๊อกอาหารของประเทศให้เหมาะสมไม่เฉพาะข้าว ซึ่งบูล็อกจะดูแลให้อยู่ในปริมาณและราคาที่เหมาะสม
    
Mr. Orlan A Calayag Administrator องค์กรอาหารแห่งชาติฟิลิปปินส์ (NFA) กล่าวว่า ผลผลิตข้าวของฟิลิปปินส์เฉลี่ยประมาณ 15 ล้านตัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในแต่ละปี แต่ปีนี้ยังไม่มีภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตลดลง และรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนระบบชลประทานเพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกเพื่อให้มีข้าวที่เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ
    
ขณะที่ภาคเอกชนของไทยนางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้ไทยมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางในการค้าข้าวในอาเซียน เนื่องจากไทยมีการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวอย่างต่อเนื่องทั้งเทคโนโลยีการการผลิต, การขนส่งรวมถึงการบริการทางการเงินที่มีความทันสมัย แต่ทั้งนี้รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจนเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 ว่าจะมีการเปิดเสรีด้านการค้าข้าวมากน้อยเพียงใด
    
สำหรับสถานการณ์การส่งออกข้าวของไทยขณะนี้อยู่ในภาวะชะลอตัวโดย 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.56) ไทยส่งออกข้าวได้ปริมาณ 2.5 ล้านตัน คาดทั้งปีภาคเอกชนจะส่งออกข้าวได้ปริมาณ 6.5 ล้านตัน ส่วนจะมีการปรับเป้าการส่งออกข้าวลดเหลือ 6 ล้านตัน หรือไม่นั้นต้องรอประเมินสถานการณ์การส่งออกข้าวในเดือนมิถุนายนอีกครั้ง
    
"แนวโน้มการส่งออกข้าวครึ่งปีหลัง ยังพอมีปัจจัยบวกหลังจากค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง แต่ราคาข้าวไทยยังสูงกว่าคู่แข่ง ซึ่งไทยมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกได้หากรัฐบาลสามารถผลักดันส่งออกข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีโดยเพิ่มสัญญาและการส่งมอบได้มากขึ้น จะทำให้การส่งออกเพิ่มจากเป้าเดิมได้"
    
ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การประชุมข้าวโลกในครั้งนี้จะช่วยให้ภาคธุรกิจในวงการข้าวได้เจรจา และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการค้าขายข้าว ซึ่งจะนำไปสู่การเจรจาซื้อขายข้าวในที่สุด โดยรัฐบาลให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาข้าวเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวของโลกโดยเฉพาะในอาเซียน ซึ่งขณะนี้ไทยมีสัญญาในการส่งมอบข้าวยังมีอีกหลายสัญญาที่รอส่งมอบ รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจา รัฐบาลยังมั่นใจว่าจะสามารถระบายข้าวในสต๊อกได้ตามแผนเพื่อนำเงินมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนในโครงการรับจำนำข้าวรอบใหม่ 

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

 

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2013 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.