ุ
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย รายงานการส่งออกข้าวในเดือนมกราคม 2557 พบว่า มีปริมาณทั้งสิ้น 696,558 ตัน มูลค่า 12,372 ล้านบาท โดยปริมาณส่งออกเพี่มขึ้น 19.9% ขณะที่มูลค่าส่งออกลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2556 ที่มีการส่งออกปริมาณ 580,983 ตัน มูลค่า 12,487 ล้านบาท

ทั้งนี้ การส่งออกข้าวในเดือนมกราคม 2557 ที่ผ่านมามีปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน เนื่องจากมีการส่งออกข้าวขาว เพิ่มขึ้นมากจากเดือนก่อน ในขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิ และข้าวนึ่งลดลงจากเดือนก่อนพอสมควร ทั้งนี้ข้าวขาวมีการส่งออกปริมาณรวม 342,469 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับปริมาณส่งออกในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยที่ข้าวขาวส่วนใหญ่จะส่งไปยังประเทศไอวอรี่โคสต์ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ แคเมอรูน และแองโกล่า

สถานการณ์ราคาส่งออกข้าวในช่วงนี้ ราคาข้าวของไทยในตลาดต่างประเทศยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัวลงและอยู่ในระดับที่ไม่ห่างจากคู่แข่งมากนัก โดยในขณะนี้ราคาข้าวของไทยห่างจากประเทศคู่แข่งประมาณ 50 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน โดยราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม (ข้อมูลจาก ORYZA.COM ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557) อยู่ที่ระดับ 395-405 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่อินเดียเสนอขายข้าวขาว 5% ที่ 415-425 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี) และปากีสถานเสนอขายที่ 395-405 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี) ในขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของไทย ซึ่งเป็นราคาที่ประกาศโดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 อยู่ที่ 458 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี)

สมาคมฯคาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะมีการส่งออกข้าวประมาณ 600,000 ตัน เนื่องจากในช่วงนี้ราคาข้าวของไทยยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัวลงอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ โดยเฉพาะข้าวขาวซึ่งในช่วงนี้ตลาดต่างประเทศได้ให้ความสนใจซื้อข้าวขาวมากขึ้น รวมทั้งตลาดข้าวนึ่งที่ผู้ซื้อประจำ เช่น ไนจีเรีย และเบนิน ได้เข้ามาสั่งซื้อเป็นระยะๆ ในขณะที่ตลาดประจำที่นำเข้าข้าวหอมมะลิ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน และฮ่องกง จะยังคงมีการนำเข้าอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าผู้ส่งออกจะยังคงเผชิญกับการแข่งขันกับประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ซึ่งผลผลิตในฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาดในเร็วๆนี้ และจะส่งผลให้ราคาข้าวของเวียดนามอ่อนตัวลงทำให้ผู้ซื้อบางส่วนหันไปซื้อข้าวจากเวียดนามมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบที่ยังคงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศผู้ซื้อเกี่ยวกับข้าวไทยก็คือการที่รัฐบาลยังคงมีสต็อกข้าวปริมาณมากและมีการระบายออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ซื้อบางส่วนขาดความเชื่อมั่นและรอดูสถานการณ์ โดยจะซื้อข้าวในปริมาณที่เพียงพอสำหรับใช้ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น จะไม่มีการซื้อเพื่อเก็บสต็อกไว้เหมือนช่วงก่อน

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า