ุ
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยืนยันกระทรวงพาณิชย์ไม่มีการส่งออกข้าวไทยภายใต้โครงการรับจำนำ เพื่อไปทุ่มตลาดหรือขายในราคาที่ต่ำกว่าทุนในประเทศอินโดนีเซียและอีกหลายประเทศตามที่มีกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้แน่นอน โดยเฉพาะที่มีข่าวจนส่งผลกระทบต่อข้าวของชาวนาอินโดนีเซียที่ถูกแย่งตลาดอย่างไม่เป็นธรรม และส่งผลถึงราคาข้าวโดยรวมในตลาดโลก จนทำให้ประเทศผู้ส่งออกข้าวหลายประเทศได้แสดงความไม่พอใจกับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้ส่งหนังสือชี้แจง ข้อเท็จจริงดังกล่าวไปบ้างแล้ว ว่าการนำเข้าข้าวของอินโดนีเซียโดยปกติแล้วจะนำเข้าโดย BULOG ซึ่งเป็นหน่วยงานมีอำนาจหน้าที่ในการนำเข้าและส่งออกข้าวของอินโดนีเซีย เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารของประเทศ และรักษาระดับราคาข้าวในประเทศ โดยรัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกระเบียบการนำเข้าโดยกำหนดให้มีการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศใน 2 ลักษณะ คือ การนำเข้าข้าวเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา สำหรับประชาชนที่ยากจนและความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยกำหนดเงื่อนไขให้หน่วยงานจัดซื้อข้าวของรัฐบาลอินโดนีเซีย (BULOG) จะเป็นผู้นำเข้าข้าวได้เท่านั้น และการนำเข้าข้าวชนิดพิเศษ โดยผู้นำเข้าต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงเกษตรและกระทรวงการค้าอินโดนีเซียเท่านั้น ได้แก่ การนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยข้าวเมล็ดสั้นข้าวบาสมาติและข้าวเหนียว เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่อินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวขาวคุณภาพปานกลางจากไทยโดยการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งในปี 2556 จนถึงปัจจุบัน อินโดนีเซียยังไม่มีการซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย เนื่องจากผลผลิตข้าวของอินโดนีเซียเพิ่มสูงขึ้น และมีสตอกข้าวเพียงพอ สำหรับข้าวไทยที่ส่งออกไปอินโดนีเซียเป็นข้าวชนิดพิเศษในช่วงดังกล่าว เช่น ข้าวหอมมะลิ ในราคาประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ข้าวเหนียว ในราคาประมาณ 870 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ปลายข้าวเหนียวในราคาประมาณ 558 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นข้าวที่มีราคาค่อนข้างสูงและประเทศอินโดนีเซียไม่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ จึงไม่เป็นการทุ่มตลาดหรือแย่งตลาดภายในประเทศของชาวนาอินโดนีเซียแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ระบายข้าวในสตอกของรัฐบาลโดยอิงราคาตลาดเป็นเกณฑ์ และกำหนดราคาขายที่เหมาะสมตามคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยที่ดีกว่าคู่แข่ง โดยในปัจจุบันราคาข้าวไทยเฉลี่ยประมาณ 440 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งสูงกว่าประเทศคู่แข่งอย่าง เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันและ 419 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันตามลำดับ ดังนั้น ขอยืนยันว่าไทยยังคงรักษาระดับราคาข้าวไทยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพมาตรฐานที่สูงกว่าคู่แข่งและยอมรับในตลาดโลก ดังนั้นข่าวที่กล่าวมานั้นจึงไม่ตรงกับความเป็นจริง น่าจะเป็นเพียงการสร้างกระแสที่มุ่งทำลายความเชื่อมั่นในข้าวไทยมากกว่า
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
|