ุ
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ตามที่ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ได้ร่วมกับทาง กรมการค้าต่างประเทศ ของกระทรวงพาณิชย์ ไปเจรจาขายข้าวไทยกับทาง Buloc ของอินโดนีเซีย ล่าสุดได้ลงนามแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แล้วจำนวน 175,000 ตัน แต่ทั้งนี้ได้มีการมอบหมายให้เอกชนเป็นผู้ส่งมอบ ซึ่งจะมีทั้งข้าวขาว 5% ที่เป็นข้าวฤดูการผลิตปัจจุบัน และที่เป็นข้าวของฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นข้าวขาว 15% ด้วย

“การที่อินโดนีเซียกลับมาซื้อข้าวไทยถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี หลังจากที่เขาหยุดซื้อจากไทยปี นับจากปี 2555”

นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวนึ่ง ไปยังตลาดในแถบแอฟริกาตะวันตก ประสบปัญหาในการส่งออกข้าวไปยังแอฟริกา เพราะเรือขนส่งสินค้ากลัวว่าทางลูกเรืออาจจะติดเชื้ออีโบลา ที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้กลับมาด้วย

“ตอนแรกก็ยังไม่เคยคิดว่าเรื่องอีโบลาจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องการส่งออกข้าวได้อย่างไร แต่ตอนนี้เริ่มกังวล เพราะไนจีเรีย ซึ่งเป็นผู้ซื้อข้าวไทยเป็นรายใหญ่ที่สุด โดยในแต่ละปีไนจีเรียซื้อข้าวจากไทยกว่า 2 ล้านตัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้าวนึ่ง และไทยเองก็เป็นผู้ส่งออกข้าวนึ่งรายใหญ่ไปตลาดแอฟริกา โดยแต่ละปีข้าวนึ่งมีการส่งออก ประมาณ 2-3 ล้านตันต่อปี”

ทั้งนี้หากไม่มีเรือยอมขนส่งสินค้าไปยังแอฟริกา จะมีผลทำให้ธุรกิจการค้าชะงักไปได้ และก็อาจจะมีผลทำให้ราคาข้าวลดต่ำลงไปอีก เห็นได้จากความเคลื่อนไหวของราคาข้าวขาว 5% ในประเทศ ที่เริ่มนิ่งและอ่อนตัวลง จากเดิมราคาตันละ 13,000 บาท เริ่มลดลงมาเหลือ 12,500 บาทต่อตัน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังเริ่มลงมาที่ตันละ 12,3000 บาท ซึ่งความน่าจะเป็นราคาข้าวควรจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะไทยมีออเดอร์ส่งออกข้าวไปจีนเฉลี่ยเดือนละ 1 แสนตัน

สำหรับสถิติช่วง 6 เดือนแรก ปี 2557 ไทยส่งออกข้าวทุกชนิดไปตลาดแอฟริกา แล้วจำนวน 3.29 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 140% จาก 1.37 ล้านตัน แบ่งเป็น เบนินจำนวน 620,00 ตัน, รองลงมาคือไอเวอรี่โคสต์ จำนวน 420,000 ตัน, แคเมอรูน 357,000 ตัน, โมซัมบิก จำนวน 240,000 ตัน, ไนจีเรีย 228,000 ตัน และแอฟริกาใต้ จำนวน 248,000ตัน

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า