www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

สมาคมผู้ส่งออกฯเสนอคสช.ตั้งไรซ์บอร์ด จัดระบบข้าวไทยแบบยั่งยืน


ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่าสมาคมฯเตรียมเสนอกรอบการบริหารจัดการข้าวไทยอย่างเป็นระบบ ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หากมีการเรียกทางสมาคมฯเข้าไปหารือ เพื่อจัดการให้เกษตรกรมีรายได้ที่เหมาะสม และอุตสาหกรรมข้าวไทยพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะนำเสนอทั้งแผนมาตรการในระยะสั้น ทั้งการตรวจสอบสต๊อกข้าวของรัฐบาลทั่วประเทศ, การระบายบายข้าวผ่านการประมูลอย่างเปิดเผย โปร่งใส, การดูแลข้าวเปลือกไม่ให้ราคาตกต่ำกระทบต่อตลาดข้าว โดยควรเน้นบริหารจัดการข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในช่วงตุลาคมนี้ และมาตรการระยะยาว คือการจัดตั้งคณะกรรมการข้าว (ไรซ์บอร์ด), การสนับสนุนธุรกิจ อุตสาหกรรมข้าวไทยสู่สากลอย่างสมบูรณ์ และการส่งเสริมรายได้ให้เกษตรกรโดยการปลูกข้าวแบบลดต้นทุน เพิ่มผลิตที่มีคุณภาพ

ทั้งนี้ยังมองว่าการที่มีการตรวจสอบสต๊อกข้าวของรัฐบาลทั่วประเทศ แยกปริมาณ ชนิด คุณภาพ จะเป็นผลดีต่อการบริหารจัดการข้าวของประเทศอย่างมีระบบ เนื่องจากปัจจุบันข้อมูลข้าวยังมีความสับสน แต่ละฝ่ายมีข้อมูลไม่ตรงกัน และข้อมูลที่แท้จริงอาจจะไม่มีใครมีข้อมูลเลยก็เป็นได้ การตรวจสอบสต๊อกข้าวจำเป็นต้องมีบุคคลที่ 3 เข้าร่วมตรวจสอบด้วย เช่น สำนักงานคณะกรรมการตรวจข้าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นต้น ขณะเดียวกันการตรวจสต๊อกข้าวจะช่วยให้การวางแผนระบายข้าวทำได้ง่ายขึ้น และหากมีการระบายข้าวอย่างโปร่งใส มีการจัดการบริหารจัดการข้าวเปลือกอย่างเหมาะสม  อาจจะทำให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับขึ้นได้ถึงตันละ 8,000-9,000 บาท จากที่ปัจจุบันราคาไม่เกิน 7,500 บาทต่อตัน

“การระบายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้ประเทศจีนที่มีสัญญา 1 ล้านตัน ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งมอบไปแล้วเพียง 1 แสนตัน ที่เหลืออีก 9 แสนตันต้องเร่งส่งมอบโดยเร็วที่สุด เพื่อผลักดันข้าวออกไป และที่สำคัญข้าวเก่าต้องค่อยๆ ระบายออก เพื่อเก็บไว้นานก็เสียหาย โดยมองว่าตอนนี้ข้าวในสต๊อกรัฐที่น่าจะมีประมาณ 15-16 ล้านตัน ข้าวสารอาจต้องใช้เวลากว่า 3-5 ปี ในการระบายให้หมด”

สำหรับการจัดตั้งไรซ์บอร์ด ซึ่งในคณะกรรมการอาจประกอบด้วย เกษตรกร ผู้ประกอบการโรงสี ผู้ค้าข้าวภายในประเทศ และผู้ส่งออก รวมถึงอาจมีหน่วยงานของรัฐเข้าร่วมด้วย เป็นต้น การให้ผู้ที่มีส่วนได้เสียภาคเอกชนเข้ามามีสิทธิในการช่วยกำหนดและมาตรฐานต่างๆ ไปในทิศทางที่ถูกต้อง เหมาะสมกับตลาด ปฏิบัติได้จริง จะเป็นการช่วยแก้ปัญหาข้าวอย่างยั่งยืนให้กับข้าวของไทยได้

“นโยบายเรื่องข้าวมักถูกใช้เป็นเครื่องมือหาเสียง และถูกกำหนดโดยพรรคการเมือง ทำให้เมื่อนักการเมืองเปลี่ยนมือนโยบายก็ต้องเปลี่ยนไปตามด้วย สร้างความสับสนในระบบข้าวพอสมควร แต่มองว่าการตั้งไรท์บอร์ด เพื่อกำหนดนโยบายให้รัฐบาลใดก็ตามเข้ามาบริหารจัดการข้าว เชื่อว่าจะทำให้ไม่เกิดความเสียหายต่อข้าวทั้งระบบเช่นที่ผ่านๆ มา และน่าจะเป็นผลดีต่อระบบข้าวไทยในระยะยาว”

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยในช่วงที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้เป็นอันดับ 1 ของโลก ที่ปริมาณ 3.93 ล้านตันข้าวสาร ตามด้วยอินเดีย 3.74 ล้านตันข้าวสาร และเวียดนาม 2.4 ล้านตันข้าวสาร ทำให้มองว่าทั้งปี 2557 ไทยอาจส่งออกข้าวได้ถึง 9 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มเป้าหมายเดิมที่เคยคาดว่าจะส่งออกข้าวได้ 7.5 ล้านตันข้าวสารด้วย และหากไทยส่งออกข้าวได้ตามที่คาดการณ์ไว้อาจทำให้ไทยกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ไทยก็ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำ โดยราคาข้าวไทยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 390 เหรียญสหรัฐ ขณะที่อินเดียอยู่ที่ 430 เหรียญสหรัฐต่อตัน และเวียดนามอยู่ที่ 400 เหรียญสหรัฐต่อตัน

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกข้าวของไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้น และเชื่อว่าไทยจะแซงอินเดียกลับมาเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ได้อีกครั้ง เพราะราคาข้าวไทยยังต่ำกว่าคู่แข่ง อย่างอินเดีย และเวียดนามอยู่พอสมควร  ประกอบกับไทยยังมีการแย่งคืนตลาดข้าวจากอินเดียได้ อีกทั้งจีนมีความต้องการนำเข้าข้าวมากขึ้น  อินเดียอาจทบทวนนโยบายส่งออกข้าว และสภาพอากาศของโลกยังมีโอกาสเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำให้ข้าวไทยมีแนวโน้มส่งออกได้มากขึ้น ในส่วนราคาข้าวไทยหลังจากนี้อาจปรับขึ้นได้บ้างเพียง 10-20 เหรียญสหรัฐต่อตัน และมีโอกาสน้อยมากที่จะปรับสูงไปอีก 100-200 เหรียญสหรัฐต่อตัน

“กระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) คาดการณ์ว่าปี 2557 อินเดียจะส่งออกข้าวได้ปริมาณ 10 ล้านตัน ไทยจะส่งออกข้าวได้ 9 ล้านตัน และเวียดนามจะส่งออกข้าวได้ 6.5 ล้านตัน ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวตรงกับที่สมาคมฯคาดไว้ว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 9 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,750 ล้านเหรียญฯ หรือ 150,000 ล้านบาท แต่ในส่วนของอินเดียนั้น อาจจะส่งออกได้น้อยกว่านั้น เพราะนโยบายความมั่นคงด้านอาหารฉบับใหม่ของอินเดียอาจทำให้อินเดียมีการทบทวนการส่งออกข้าว รวมถึงปรากฏการณ์เอลนิโญ่ ที่อินเดีย อาจต้องเผชิญ”

นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า รูปแบบของการตั้งไรซ์บอร์ด นอกจากจะมีตัวแทนจากภาคเอกชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาร่วมกำหนดทิศทางแล้ว ก็ให้ภาครัฐเข้ามาร่วมเป็นกรรมการด้วย ซึ่งอาจจะยุบคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ(กขช.) ไปเพราะไม่จำเป็นหากไม่มีโครงการรับจำนำข้าว แล้วให้มาเป็นกรรมการในชุดนี้แทน

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2014 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.