ุ
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การที่กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าตามแผนระบายสต็อก ข้าวในเดือน ส.ค. หลังได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ถือเป็น เรื่องที่ดีที่เอกชนจะได้มีโอกาสมี ข้าวทำการส่งออกและเพื่อจำ หน่ายในประเทศ และถือเป็นการระบายข้าวในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงที่ข้าวนาปียังไม่ออกสู่ตลาด และเอกชนต้องการข้าวอย่างมาก คาดว่าเอกชนจะให้ความสนใจร่วมประมูลกันอย่างคึกคัก ไม่ต่ำกว่า 2-4 แสนตัน
ส่วนประเด็นที่ต้องการให้กรมการค้าต่างประเทศดำเนินการคือ การประมูลอย่างโปร่งใส โดยให้กำหนดราคาไว้ และหากเอกชนรายใดเสนอราคาสูงสุด ก็ให้อนุมัติขาย โดยต้องประกาศราคาที่ประมูลได้ต่อสาธารณชน และไม่ควรมีการต่อรองราคาเหมือนที่ผ่านมา เพราะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าระบายข้าวไปในราคาที่แท้จริงเท่าไร
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์กำ หนดระบายข้าวช่วง 2 เดือน ส.ค.- ก.ย. ไว้ในกรอบ 200,000-500,000 ตัน คาดว่าในช่วง 2 เดือนนี้กรมการค้าต่างประเทศจะเริ่มเปิดประ มูลข้าวสารในสต็อกเป็นการทั่วไป ได้ โดยมีข้าวจากหลายฤดูการผลิตและข้าวหลายชนิดเพื่อขายทั้งในประเทศและส่งออกไปต่าง ประเทศ ทั้งนี้ ข้าวที่นำมาเปิดประ มูลผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว ส่วนข้าวที่เสื่อมคุณภาพ จะมีวิธีบริหารจัดการควบคู่กันไปด้วย
สำหรับสถานการณ์ประเทศผู้ส่งออกข้าว พบว่าเริ่มมีการปรับตัวเพื่อเข้าสู่การแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเวียดนามอาจพิจารณายกเลิกการกำหนดราคาส่งออกข้าวขั้นต่ำ เพื่อให้ผู้ส่งออกข้าวสารสามารถกำหนดราคาส่งออกเองได้โดยไม่ต้องใช้ราคาส่งออกข้าวขั้นต่ำของสมาคมอาหารเวียดนาม ส่วนอินเดีย ล่าสุด องค์การอาหารแห่งชาติของอินเดียรายงานว่า สต็อกข้าว ณ วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา มี 28.03 ล้านตัน ลดลง 16% ขณะที่เมียนมาร์กำลังเร่งสร้างโรง งานผลิตข้าวนึ่งในหลายเขตของประเทศ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการในต่างประเทศ
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
|