www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

พยุงราคาข้าว 22 ล้านตัน


รัฐบาลไฟเขียวมาตรการพยุงราคาข้าวในฤดูผลิตใหม่ สั่งธ.ก.ส.ปล่อยกู้ชาวนาเพื่อเก็บข้าวในยุ้งฉาง ให้พาณิชย์ปล่อยกู้โรงสีซื้อข้าวเก็บ รวม 22 ล้านตัน จากประเมินผลผลิต 27 ล้านตัน "ปรีดิยาธร"คาดราคาข้าวขยับขึ้น แต่ขึ้นกับการส่งออก ขณะธ.ก.ส.เตรียมจ่ายเงินชาวนา มั่นใจเริ่มได้ 20 ต.ค.นี้

รัฐบาลออกมาตรการพยุงราคาข้าว โดยให้ชาวนาชะลอขายข้าวและให้โรงสีซื้อข่าวเก็บในโกดัง ขณะที่อุดหนุนสินเชื่อผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงพาณิชย์ โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่ารัฐบาลพยายามที่จะแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำโดยใช้วิธีการคู่ขนานทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว

มาตรการระยะสั้นรัฐบาลได้ให้การช่วยเหลือให้กับชาวนาผู้รายได้น้อย การลดต้นทุน รวมทั้งช่วยเหลือชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวก็ได้ดำเนินการแก้ปัญหา

ส่วนในระยะยาวก็ต้องดูในเรื่องของการวางแผนการผลิตโดยใช้ศักยภาพทั้งหมดของรัฐและให้ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย และศูนย์ในพื้นที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการให้คำแนะนำเกษตรกรในการปลูกพืชชนิดต่างๆ ให้เกิดการสมัครใจแต่ไม่ใช่การบังคับ

“ปัญหาในขณะนี้คือการที่เราขายข้าวได้จำนวนมากแต่ราคาข้าวไม่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งมีปัญหาในเรื่องของการส่งมอบข้าว เช่นเราขายข้าวให้กับแอฟริกาแล้วส่งข้าวไปไม่ได้เนื่องจากเกิดโรคระบาด หรือบางพื้นที่ก็มีภาวะสงครามการขนส่งข้าวก็มีปัญหา ปัญหาตอนนี้คือทำยังไงให้ราคาข้าวเพิ่มขึ้น อาจจะต้องให้คนทั้งโลกกินข้าวเพิ่มขึ้น ผมก็ให้โจทย์ไปว่าทำยังไงในการแก้ปัญหาจะเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ให้ชาวต่างชาติเข้ามาดูการทำนา เราก็ต้องสร้างชาวนารุ่นใหม่ให้กระทรวงเกษตรฯไปดูว่าจะทำอย่างไรในการส่งลูกชาวนาเรียนถึงดอกเตอร์แล้วกลับมาทำนาให้ความรู้อยู่ในชุมชน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุมนบข.มีมติเห็นชอบมาตรการรักษาระดับราคาข้าวนาปีปีการผลิต 2557/2558 ที่คาดว่าข้าวจะเริ่มออกสู่ตลาดในเดือน พ.ย.นี้และคาดว่าจะมีข้าวออกสู่ตลาดทั้งหมดประมาณ 27 ล้านตัน

"เพื่อไม่ให้ราคาข้าวในตลาดลดต่ำลง นบข.จึงเห็นชอบมาตรการสินเชื่อเพื่อพยุงราคาข้าว 22 ล้านตัน ส่วนอีก 5 ล้านตันเป็นข้าวขาวคุณภาพสูง ขายได้ราคาอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ต้องไปจัดการอะไร"

สำหรับข้าวจำนวน 22 ล้านตัน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ข้าวหอมมะลิ 8 ล้านตัน และข้าวเหนียว 7 ล้านตัน รวม 15 ล้านตัน ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ โดยจะให้ ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อให้กับชาวนา 80% ของมูลค่าข้าวเพื่อให้ชาวนาชะลอการขายและเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางของตนเองและทยอยขายภายหลังซึ่งจะทำให้ข้าวที่ออกมาใหม่ราคาไม่ตกมากนัก โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับชาวนาต่อไป

2. ข้าวขาวคุณภาพต่ำประมาณ 7 ล้านตัน โดยรัฐบาลจะใช้วงเงินที่มีอยู่ของกระทรวงพาณิชย์ในการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับโรงสี เพื่อไปซื้อข้าวจากชาวนามาเก็บไว้เพื่อชะลอการขายข้าวในช่วงที่ราคาข้าวในตลาดยังต่ำ

“ทั้งสองวิธีนี้เป็นการดูแลเสถียรภาพราคาข้าวในช่วงข้าวนาปีออกสู่ตลาดมากโดยการดึงซัพพลายที่ทะลักออกจากตลาด ขณะนี้ราคาข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 7,800 - 8,500 บาท/ตัน คาดว่าหลังจากนี้ราคาข้าวจะทยอยปรับตัวขึ้น แต่จะเพิ่มขึ้นแค่ไหนอยู่ที่ฝีมือของผู้ส่งออกด้วย แต่ก็เชื่อว่าการส่งออกจะดีขึ้นเพราะผู้ส่งออกที่ไม่ได้ทำงานมา 2 ปีในช่วงมีโครงการรับจำนำกลับมาทำหน้าที่ในช่วงเดือน ส.ค. - ก.ย.ก็ส่งข้าวออกได้ 9 แสนตันต่อเดือน รวมแล้วในปีนี้ส่งออกได้แล้วกว่า 8 ล้านตัน ตัวเลขส่งออก 10 ล้านตันในปีนี้ก็จะทำได้และในปีหน้าการส่งออกจะเพิ่มเป็น 11 ล้านตัน” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า งบประมาณที่ใช้ในโครงการนี้ ขึ้นกับจำนวนเกษตรกรที่มาขอสินเชื่อ

คาดขึ้นทะเบียนแจกเงินไร่ละพัน20ต.ค.

สำหรับการให้เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า การให้เงินช่วยเหลือชาวนาจำนวนนี้จะถึงมือชาวนาอย่างแท้จริงเนื่องจากจะโอนเงินเข้าสู่บัญชีของชาวนา โดยเชื่อว่าการขึ้นทะเบียนจะมีความถูกต้อง 99% โดยเจ้าของที่ดินจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ ซึ่งการขึ้นทะเบียนชาวนา ธ.ก.ส.ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน และตรวจสอบข้อมูลทุกปี ซึ่งจะมีการดำเนินการขึ้นทะเบียนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ต.ค.

"จะทราบตัวเลขเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่มาขึ้นทะเบียนรอบใหม่นี้ทั้งหมดว่ามีกี่ครัวเรือนโดยปีที่ผ่านมามีจำนวน 3.4 ล้านครัวเรือน ปีนี้อาจจะเพิ่มเป็น 3.5 ล้านครัวเรือนก็ได้"

ตั้ง"อนุพงษ์"โซนนิ่งเกษตร

ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวด้วยว่าที่ประชุม นบข.มีมติเห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการโซนนิ่งเกษตร โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานเพื่อทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการสำรวจ พื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศ รวมทั้งทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ว่าจะแก้ปัญหาการปลูกข้าวนาปรัง และการปลูกข้าวในปีการผลิต 2558

อย่างไร รวมทั้งการส่งเสริมให้ชาวนาปลูกข้าวคุณภาพสูงเพื่อให้ได้ผลผลิตและราคาดีขึ้น โดยมาตรการต่างๆ ขอให้คณะกรรมการนำมาเสนอต่อที่ประชุม นบข.ในการประชุมครั้งต่อไป ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจงแนวทางจ่ายเงินชาวนา

ตั้งงบชดเชยโรงสี612ล้านบาท

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า นบข. มีมติให้เพิ่มวงเงินชดเชยดอกเบี้ยให้กับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการเก็บสต็อกข้าวจากเดิมที่เคยอนุมัติไว้ ปริมาณข้าวเปลือก 2 ล้านตัน โดยชดเชยดอกเบี้ย 3%วงเงินชดเชย 306 ล้านบาท ให้เพิ่มอีก 4 ล้านตัน วงเงินชดเชย 612 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3% เช่นเดิม รวมรัฐจะต้องจ่ายชดเชยรวมเป็นเงิน 918 ล้านบาท ปริมาณข้าวที่โรงสีจะต้องซื้อเก็บสต็อกรวม 6 ล้านตัน

“ถ้าโครงการนี้เวิร์ก จะช่วยดึงผลผลิตข้าวเปลือกออกจากตลาดได้ 6 ล้านตัน และจะช่วยดึงราคาข้าวให้ปรับตัวสูงขึ้น เพราะโรงสีจะต้องไปซื้อข้าวในราคานำตลาด”

นอกจากนี้ นบข. ยังได้อนุมัติความช่วยเหลือให้กับชาวนาที่มีปัญหายังไม่ได้รับเงินจำนำจากโครงการข้าวของรัฐบาลก่อน โดยได้อนุมัติการช่วยเหลือให้กับชาวนาใน 3 จังหวัด คือ กำแพงเพชร พิจิตร และสงขลา ที่ยังไม่ได้รับเงิน เพราะมีปัญหาในเรื่องการจำนำข้ามเขต และจำนำเกินระยะเวลาที่กำหนด รวมวงเงิน 72 ล้านบาท ชาวนา 571 ราย ซึ่งนบข. ได้ย้ำว่า การอนุมัติช่วยเหลือครั้งนี้ เป็นความต้องการช่วยเหลือชาวนา

ขณะเดียวกัน นบข. ได้อนุมัติแต่งตั้งคณะทำงานระบายข้าวเปลือก ข้าวสารที่เสื่อมคุณภาพ โดยเป็นข้าวตกค้างตั้งแต่ปี 2548/49 ปี 2552/53 และปี 2554/55 รวมปริมาณ 5.4 หมื่นตัน ซึ่งหากไม่หาทางระบายออก ก็จะเสียค่าเช่าโกดังต่อไปไม่จบสิ้น

ธ.ก.ส.เตรียมจ่ายเงินชาวนา20ต.ค.

ด้าน ธ.ก.ส.ได้ซักซ้อมแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา สำหรับปีการผลิต 2557/58 ไร่ละ 1 พันบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปยังสาขาต่างๆ แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกษตรที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ 3.49 ล้านครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปีประมาณ 63.8 ล้านไร่ รวมเป็นเงินทั้งหมด 4 หมื่นล้านบาท

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่าได้ชี้แจงให้เกษตรกรทราบถึงขั้นตอนการดำเนินงาน และได้เตรียมพนักงาน ธ.ก.ส.บางส่วน สุ่มตรวจสอบการเพาะปลูกข้าวของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้กระบวนการทำงานดังกล่าวเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเงินดังกล่าวถึงมือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างแท้จริงและทั่วถึง โดยกำหนดจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรที่เข้าสู่กระบวนการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป

ธ.ก.ส.คาดวงเงินรวมกว่าแสนล้าน

ทั้งนี้ในการประชุมคณะกรรมการธ.ก.ส. ที่มี นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. รายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงผลการดำเนินงานตามมติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งนับตั้งแต่คสช.เข้ามาบริหารประเทศกว่า 4 เดือนที่ผ่านมา มีคำสั่งให้ธ.ก.ส.ช่วยเหลือเกษตรแล้ว 8 โครงการ

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ครม. มีมติให้ช่วยเหลือชาวนาอีก 1 โครงการ คือโครงการจ่ายเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1 พันบาท เตรียมจะเสนอให้บอร์ดธ.ก.ส.พิจารณาในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ซึ่งหากรวมวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือทั้ง 9 โครงการคิดเป็นเงินกว่า 2 แสนล้านบาท โดยเป็นเงินของธ.ก.ส. 1.2 แสนล้านบาท และเป็นเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจัดหามาให้ 8.6 แสนล้านบาท

เงินส่วนที่ ธ.ก.ส.ต้องออกไปก่อน หากเป็นโครงการปล่อยสินเชื่อจะได้คืนจากการใช้หนี้ของลูกหนี้ และรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ส่วนหนึ่ง สำหรับเงินที่ให้ชาวนาไร่ละ 1 พันบาท จะได้คืนด้วยการตั้งงบจากรัฐบาลมาชดเชยเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยที่คิดจากอัตราเฉลี่ยฝากประจำของ 4 ธนาคารใหญ่บวก 1% (เอฟดีอาร์บวก 1%) ส่วนเงินกู้กระทรวงการคลังตั้งงบมาใช้ให้ทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น โดยไม่ให้กระทบกับฐานะการเงินของธนาคาร

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2014 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.