ุ
ภายหลังจากการประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว และการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการรับจำนำข้าว นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว มีมติมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ ดำเนินการระบายข้าวในพื้นที่ภูมิภาค โดยสามารถดำเนินการได้ทันที ไม่ต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มประมูลได้ประมาณกลางเดือนนี้ หลังจากมีการประมูลทั่วไปในกรุงเทพฯ ในวันที่ 10 มีนาคมนี้แล้ว โดยจะเปิดให้ผู้ประกอบการ ห้างร้าน และโรงสี ยื่นประมูลซื้อข้าวในสตอกของรัฐครั้งนี้ได้ เดือนละ 2 ครั้ง

 สำหรับการกำหนดราคากลางนั้นจะใช้หลักเกณฑ์ของกรมการค้าต่างประเทศ ที่ใช้ราคากลางเดียวกันทั่วประเทศ โดยจะลดต่ำลงกว่านี้อย่างแน่นอน ซึ่งในครั้งนี้มีจังหวัดนำร่องในการเปิดประมูล อาทิ เชียงราย นครสวรรค์ และพิจิตร

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพาณิชย์ยังไม่สามารถคาดการณ์ตัวเลขการระบายข้าวในครั้งนี้ได้ เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่ ส่วนชาวนาในพื้นที่จะมีสิทธิ์ได้รับเงินจากการระบายข้าวครั้งนี้ก่อนหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวจะต้องเป็นไปตามลำดับการขึ้นทะเบียนใบประทวน

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว ยังมีมติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ขายข้าวให้กับบุคคลที่สนใจและต้องการช่วยเหลือชาวนา อาทิ นิติบุคคล บริษัท ห้างร้าน และมูลนิธิต่างๆ ได้โดยตรง และมีมติให้ระบายข้าวเสื่อมสภาพที่เปียกน้ำและล้ม จำนวน 7,000 ตัน จากข้าวสตอกกว่า 13 ล้านตัน ขณะที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการรับจำนำข้าว ภายใน 2-3 สัปดาห์ เตรียมตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบสตอกข้าวทั่วประเทศ ว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพทั้งปริมาณและคุณภาพจำนวนเท่าไร

นอกจากนี้ นายนิวัฒน์ธำรง ยังระบุว่า กระทรวงพาณิชย์สามารถระบายข้าวได้เฉลี่ยเดือนละ 8,000-10,000 ล้านบาท จากตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 - มกราคม 2557 คืนเงินให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปแล้ว 35,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงมั่นใจว่าจะสามารถคืนงบกลางให้กับกระทรวงการคลังได้ภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ตามกำหนดอย่างแน่นอน

ส่วนการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) นายนิวัฒน์ธำรง ระบุว่า ในวันที่ 19 มีนาคมนี้ จะมีการเปิดประมูลจัดซื้อจัดจ้างให้เอกชนเข้ามาปรับปรุงคุณภาพข้าว เพื่อส่งมอบให้ COFCO รัฐวิสาหกิจของจีน ก่อนทยอยส่งมอบเดือนละ 100,000 ตัน เป็นระยะเวลา 10 เดือน โดยยืนยันว่า การประมูลข้าวที่ถี่และหลายช่องทางมากขึ้นจะไม่ทำให้ราคาข้าวตก โดยจะรักษาระดับราคาอย่างเหมาะสม ซึ่งขณะนี้มี 2-3 ประเทศที่แสดงความสนใจซื้อข้าวแบบจีทูจีกับไทย

ที่มา สำนักข่าวไทย