www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

พาณิชย์เตรียมประกาศทีโออาร์ประมูลข้าวล็อตใหม่


นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ต้นสัปดาห์นี้ จะประกาศหลักเกณฑ์การประมูลข้าวสารในสต็อกรัฐบาลเป็นการทั่วไป หรือ ทีโออาร์ ปริมาณ 1.4 แสนตัน ประกอบด้วย ข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิ และปลายข้าว โดยได้ปรับหลักเกณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และหลังจากนี้ จะเน้นการผลักดันการระบายข้าวฤดูกาลใหม่ 2557/58 เพราะผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดปลายเดือนก.ย. รวมทั้งการระบายข้าวในสต๊อกจะใช้ข้าวที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว การตรวจสอบในแง่ปริมาณทำไปแล้วกว่า 90% แต่การตรวจคุณภาพทำได้เพียง 50% ของข้าวที่ตรวจสอบปริมาณแล้ว

"ข้าวในสต็อกที่ไม่ได้คุณภาพ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ตั้งคณะทำงาน มากำหนดกรอบการระบายข้าวคุณภาพต่ำ เพื่อให้กรมการค้าต่างประเทศกำหนดเกณฑ์ราคาการระบาย"

นางดวงพร ยืนยันว่า การระบายสต็อกข้าวสารของรัฐบาล ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำขณะนี้ เพราะเปิดระบายปริมาณไม่มาก และเข้าสู่หน้าฝน ทำให้ชาวนาเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตและนำมาขายให้กับโรงสี ทำให้ข้าวมีความชื้นสูง จึงทำให้ถูกหักราคา ซึ่งเป็นภาวะชั่วคราว และจากการสอบถามผู้ส่งข้าวพบว่า ขาดแคลนเรือสินค้า ทำให้มีการหยุดซื้อข้าว หลังจากนี้เชื่อราคาข้าวเปลือกจะกลับมาปรับตัวดีขึ้น เพราะสถานการณ์เรือกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ภาครัฐจะทำงานใกล้ชิดกับภาคเอกชน โดยเร่งเดินทางไปเจรจาขายข้าวในหลายประเทศ เริ่มจากการทวงคืนตลาดเดิมของไทยที่เสียไป จากข้อเสียเปรียบด้านราคาที่สูงเกินคู่แข่ง โดยเฉพาะตลาดจีน ที่จะเร่งทำสัญญาขายข้าวต่อเนื่อง ตามกรอบข้อตกลงเดิมที่ 1 ล้านตัน และเตรียมนำคณะผู้แทนการค้า ร่วมงาน "ไชน่าอาเซียน เอ็กโปร์" ที่เมืองหนานนิง ช่วงกลางเดือนก.ย.นี้ เพื่อประชาสัมพันธ์และตอกย้ำคุณภาพข้าวไทยให้กับผู้บริโภคชาวจีน มั่นใจการส่งออกข้าวปีนี้จะสูงถึง 10 ล้านตัน และแนวโน้มความต้องการข้าวยังมีสูงต่อเนื่องในปี 2558

ด้านนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้จีนและอินโดนีเซีย เริ่มกลับมาซื้อข้าวจากไทย จากก่อนหน้านี้ที่หันไปซื้อข้าวจากเวียดนาม เพราะราคาข้าวไทยไม่ได้ปรับสูงไปกว่าราคาข้าวประเทศคู่แข่ง โดยราคาส่งออกข้าวไทยเฉลี่ยตันละ 420 ดอลลาร์ ประกอบกับเวียดนามคู่แข่งสำคัญทยอยขายข้าวส่วนใหญ่หมดเเล้ว ซึ่งข้าวล็อตใหม่กว่าจะออกผลผลิตใหม่ คือเดือนมี.ค.ปีหน้า หลังจากนี้ ภาครัฐและเอกชน จะเดินหน้าทวงคืนตลาดข้าวไทยให้กลับคืนมา มีเป้าหมายต่อไปในตลาดฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

ส่วนข้าวเปลือกราคาตกต่ำ ยืนยันว่า ผู้ส่งออกไม่ได้ชะลอหยุดซื้อข้าวสาร และทำให้โรงสีหยุดซื้อข้าวเปลือก แต่เพราะข้าวเปลือกมีความชื้นสูง ชาวนาจึงเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาพร้อมกัน ทำให้ถูกกดราคารับซื้อ เชื่อระยะต่อไปราคาข้าวเปลือกจะกลับมาดีขึ้น เพราะเอกชนและรัฐร่วมมือหาตลาดข้าวมารองรับผลผลิตของชาวนา โดยข้าวเปลือกจะขยับขึ้นมาตันละ 8,500 บาท ตามนโยบาย คสช. ซึ่งภาครัฐต้องเร่งทำความเข้าใจกับชาวนา โดยไม่ให้ชาวนาเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาพร้อมกัน เพื่อไม่ให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดตกต่ำ

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการโรงสีข้าว กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกเจ้า5% ในพื้นที่ภาคกลางมีทิศทางปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ภาครัฐกลับไร้มาตรการดูแล ส่งผลให้ผลผลิตนาปรังที่จะออกสู่ตลาดช่วง ส.ค.-ต.ค. ปีนี้ ปริมาณ 9.739 ล้านตัน ใกล้จะประสบปัญหาขาดทุน

ทั้งนี้ ราคาข้าว ณ วันที่ 5 ก.ย. 2557 ข้าวเปลือกเจ้า (ความชื้น15%) จ.พระนครศรีอยุธยา ตันละ 7,900 บาท ลดลงต่ำกว่าราคาเฉลี่ยเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ตันละ 8,200-8,800 บาท หรือช่วงเวลาเพียง 1 เดือนราคาข้าวลดลงไปเกือบตันละ 1,000 บาท

นอกจากนี้ หากย้อนสถิติราคาข้าวชนิดเดียวกันจะพบว่า ราคาในปัจจุบันทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 โดยราคาเฉลี่ย ส.ค. ปี 2557 ตันละ 8,200-8,800 บาท ปี 2556 ตันละ 9,500 บาท ปี 2555 ตันละ 10,850 บาท และปี 2554 ตันละ 10,008 บาท

ราคาดังกล่าวเมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิตของชาวนาจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ที่ ไร่ละ 5,967 บาทสำหรับนาปรัง ส่วนนาปีต้นทุนต่อไร่ 4,787 บาท หรือเฉลี่ยต่อตัน 10,831 บาท (ผลผลิต 442 กิโลกรัมต่อไร่) ก็พบว่าราคาตลาดปัจจุบันกำลังทำให้ชาวนาเผชิญกับภาวะขาดทุน

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2014 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.