ุ
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้ความเห็นกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ กล่าวโทษการทุจริตในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลกรณีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ว่าพอใจที่มีการดำเนินการตัดสินกล่าวโทษออกมาแบบนี้เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่วงการค้าข้าวรับทราบมานานแล้วว่าสัญญาจีทูจีไม่มีจริงและข้าวเหล่านั้นไม่ได้มีการส่งออกให้รัฐบาลจีนแต่กลับมีการนำกลับมาเวียนเทียนขายในประเทศ เห็นได้จากหลักฐานเช็คที่มีบริษัทผู้ส่งออก บางราย สั่งจ่ายมาให้ ที่ไม่ได้มีการสั่งจ่ายมาจากรัฐบาลจีน ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้เอกชนจะรู้ และ มีหลักฐาน ซึ่งภาคเอกชนก็ได้พยายามแสดงความเห็นไปที่รัฐบาลมาโดยตลอด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ รัฐบาลไม่เคยฟัง ไมได้สนใจ และเอกชนก็ไม่มีอำนาจที่จะไปจัดการเรื่องการทุจริต และยังมีเอกชนหลายรายที่ไปร่วมมือกับรัฐบาลในการที่จะเอาเปรียบเอกชนในวงการค้าข้าวด้วยกัน
ดังนั้นกรณีนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับนักการเมืองรุ่นหลังที่คิดจะตบตาประชาชนและสิ่งที่ตามมา คือ จะทำให้กระบวนการขายข้าวของรัฐบาลมีความโปร่งใสมากขึ้นและน่าจะทำให้รัฐบาลขายข้าวได้ในราคาดีขึ้นและน่าจะขาดทุนน้อยลงเพราะที่ผ่านมาการขายข้าวแบบจีทูจีที่รู้กันรัฐบาลขายข้าวออกมาในกิโลกรัมละ10บาท หรือตันละ 10,000 บาท เนื่องจาก ไม่ต้องมีราคากลางไม่ต้องทำรายงานทำให้เป็นช่องทางของการทุจริต
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนายภูมิ สารผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ปฎิเสธผ่านบุคคลใกล้ชิดเรื่องการให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องกับกรณีที่ป.ป.ช.ได้มีมติเอกฉันท์ตั้งอนุกรรมการไต่สวนกล่าวหาร่วมกับนายบุญทรงเตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกเกี่ยวกับโครงการทุจริตการรับจำนำและระบายข้าวโดยบุคคลที่ใกล้ชิดระบุว่านายภูมิไม่เคยได้รับทราบข้อกล่าวหาที่ปปช.มีมติออกมาและไม่เคยไปชี้แจงใดๆต่อป.ป.ช.แต่ยืนยันว่าพร้อมจะต่อสู้ตามขั้นตอนของกฎหมายเหมือนกับนายบุญทรง ที่พร้อมจะให้ข้อมูลต่อป.ป.ช.เช่นเดียวกัน
สำหรับความเคลื่อนไหวของกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) นั้นได้ผู้บริหารระดับสูงของกรมได้เรียกหารือเป็นการภายในเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวโดยในเบื้องต้นฝ่ายบริหารของคต.ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นที่ถูกป.ป.ช.กล่าวหา
อย่างไรก็ตามคต.ก็เตรียมที่จะแถลงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนในอีก 2-3วันจากนี้หลังจากได้หารือในประเด็นที่ป.ป.ช.ได้กล่าวหาจนครบแล้ว
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
|