ุ
นายยรรยง พวงราช รักษาการ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การประมูลข้าวสารสต็อกรัฐบาลปริมาณ 1.48 แสนตัน ผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) รอบ 4 มีผู้ประกอบการยื่นเสนอราคาส่วนต่าง (ค่าเบสิส) ทั้งหมด 19 ราย จากผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 27 ราย เพิ่มขึ้นจากการประมูล เอเฟตรอบก่อนที่มีผู้ยื่นเสนอราคาส่วนต่าง 8 ราย จากผู้ลงทะเบียน 22 ราย ถือว่ามีผู้ร่วมประมูลมากสุดนับตั้งแต่มีการเปิดระบายข้าวผ่านเอเฟตของรัฐบาลชุดนี้ และยังมีการเสนอราคาดีขึ้นด้วย ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาอนุมัติขายได้ภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ การเสนอราคาส่วนต่าง ข้าวขาว 5% ที่เปิดระบายทั้งหมด 1.1 แสนตัน มีผู้เสนอราคาส่วนต่างครบทุกกองเฉลี่ยลบ 0.99 บาท ถึงลบ 3.10 บาท/กิโลกรัม (กก.) โดยราคาดีขึ้นกว่าการประมูลรอบก่อนที่มีการเสนอราคาส่วนต่างลบ 1.80 ถึงลบ 4 บาท/กก. ส่วนข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ที่มีการเปิดระบาย 3.84 หมื่นตัน มีผู้เสนอราคาส่วนต่างลบ 1.50 บาท ถึงลบ 3.90 บาท/กก. ราคาดีขึ้นกว่าการประมูลรอบก่อนที่มีการเสนอราคาส่วนต่างลบ 2.38 บาท ถึงลบ 7 บาท/กก.
"การยื่นประมูลมากขึ้น น่าจะเกิดจากผู้ประกอบการมีความมั่นใจในเรื่องคุณภาพ ทั้งที่สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลเหมือนกับหลังชนฝา ถ้าจะกดราคาก็สามารถทำได้ ซึ่งกระ ทรวงพาณิชย์จะเร่งการระบายผ่านตลาดเอเฟตต่อไป เพราะเป็นวิธีการดีสุดในขณะนี้ โดยจะระบายรอบต่อไปภายในสัป ดาห์หน้า ปริมาณ 1.5-2 แสนตัน เพื่อนำเงินที่ได้จากการระ บายข้าวมาจ่ายให้เกษตรกรที่นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำ" นายยรรยงกล่าว
นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนกุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย และเจ้าของบริษัท พิจิตรร่วมเจริญ 2 ไรซ์ กล่าวว่า ได้เสนอให้กระทรวงพาณิชย์ระ บายข้าวโดยผ่านตลาดเอเฟต มากขึ้น โดยระบายครั้งละ 5 แสนตันขึ้นไป เพราะเป็นตลาดที่สร้างความเชื่อมั่น และไม่ติด ขัดระเบียบใดๆ รัฐบาลสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการระบายข้าวนอกรอบ โดยเปิดให้เอกชนที่มีคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศยื่นซื้อข้าวสต็อกรัฐบาลนั้น มองว่าผู้ประกอบการรายเล็กจะเสียเปรียบ
ที่มา ไทยโพสต์
|