ุ
นายสมเกียรติ มรรคยาธร เลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้เปิดโกดังเก็บสต๊อกข้าวรัฐบาล ที่ผู้ส่งออกข้าวได้รับอนุมัติซื้อข้าวรัฐบาลผ่านวิธีการประมูลเป็นการทั่วไป การระบายผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ซึ่งได้ทำสัญญาและชำระค่าข้าวไปแล้ว ก่อนที่ คสช.จะบริหารประเทศ รวมปริมาณกว่า 300,000 ตัน โดยขอให้ผู้ส่งออกขนข้าวออกจากโกดังได้ ล่าสุด พล.อ.ฉัตรชัยได้อนุญาตแล้ว โดยให้นำหลักฐานการชำระเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อนำข้าวออกจากโกดัง
“พล.อ.ฉัตรชัย ได้แจ้งกับผมเองว่า อนุญาตให้นำข้าวที่ทำสัญญาและชำระเงินออกไปได้ โดยให้ยื่นหลักฐานการชำระเงินเพื่อขอให้ทหารเปิดโกดังข้าว ซึ่งข้าวในส่วนที่ขนออกได้นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่หยุดการระบายไว้ก่อน”
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ผู้ส่งออกที่มีหลักฐานการชำระเงินชัดเจนจะทยอยขนข้าวออก ซึ่งเชื่อว่าปริมาณข้าวดังกล่าวจะช่วยรองรับความต้องการซื้อข้าวในตลาดต่างประเทศ ที่เสนอซื้อเข้ามามาก โดยเมื่อเดือน พ.ค.57 ไทยส่งออกข้าวได้มากกว่า 1 ล้านตัน เพราะราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้
สำหรับกรณีที่มาเลเซียซื้อข้าวจากประเทศเวียดนามปริมาณ 200,000 ตัน เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนนั้น เป็นการเจรจาขายข้าวลอตใหม่ ไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาขายข้าวระหว่างรัฐบาลไทยและมาเลเซียปริมาณ 800,000 ตัน ก่อน ที่ คสช.จะเข้ามาบริหารประเทศ ได้สั่งให้กรมการค้าต่างประเทศ ชะลอการเจรจากับมาเลเซียไว้ก่อน ซึ่งมาเลเซียมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าหลายลอต อีกทั้งในปีนี้ ไทยขายข้าวให้กับมาเลเซียได้เป็นจำนวนมาก โดยช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ ไทยขายข้าวให้มาเลเซียได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศบางส่วน มีความกังวลต่อการอนุญาตให้ผู้ส่งออกข้าวสามารถขนข้าวออกจากโกดังรัฐได้ เพราะจะทำให้ผู้ส่งออกไม่มาซื้อข้าวในตลาด และอาจส่งผลให้ราคาข้าวลดลงได้อีกครั้ง โดยเฉพาะข้าวที่ผู้ส่งออกบางรายได้จากสต๊อกรัฐผ่านวิธีการซื้อพิเศษ หรือให้ยื่นคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาซื้อข้าวรัฐบาลทางตรง เพราะราคาข้าวที่รัฐบาลขายต่ำกว่าราคาขายวิธีประมูลและเอเฟต
อย่างไรก็ตาม คสช.ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับเรื่องข้าว โดยจะปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ โดยเฉพาะกรมการค้าต่างประเทศ ที่จะต้องลดบทบาทการเป็นผู้เจรจาขายข้าวเอง มาเป็นผู้ดูแลกลไกและหันมาส่งเสริมภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจที่มีคือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เป็นตัวขับเคลื่อนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน จะมีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพด้านราคาข้าวด้วย ส่วนการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการระบายข้าวครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้อนุมัติการส่งมอบข้าวตามสัญญาจีทูจีที่ไทยได้ทำกับคอฟโก รัฐวิสาหกิจของจีนแล้ว โดยลอตแรก 100,000 ตัน จากสัญญาซื้อขาย 1 ล้านตัน ได้ส่งมอบไปแล้ว
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
|