ุ
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้นำคณะผู้แทนการค้าข้าวไทยเดินทางไปเยือนฮ่องกง และได้พบปะกับผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่ของฮ่องกง เพื่อร่วมกันกระตุ้นการนำเข้า และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดข้าวไทย หลังจากที่เสียส่วนแบ่งตลาดบางส่วนให้กับประเทศคู่แข่ง โดยผู้นำเข้าฮ่องกงยืนยันที่จะสนับสนุนการนำเข้าข้าวไทยเพิ่มขึ้น และมั่นใจว่าส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในฮ่องกงจะกลับคืนมาแน่นอน นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนแนวทางการทำตลาดและเห็นควรมุ่งเน้นการรักษาข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นข้าวระดับพรีเมียม โดยประชาสัมพันธ์ตอกย้ำให้ผู้บริโภคจดจำเป็นระยะๆ

พร้อมกันนั้นยังได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง จัดกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยและข้าวไทยในงานเทศกาลอาหารไทย ณ ห้างสรรพสินค้าอีออน (จัสโก้) โดยได้จัดแสดงตัวอย่างข้าวหอมมะลิไทยและข้าวไทย พร้อมเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย แผ่นพับแสดงคุณค่าทางอาหารและการเก็บรักษาข้าวไทย และการแจกตัวอย่างข้าวหอมมะลิไทยและข้าวไทยให้กับผู้บริโภคได้ชิม ซึ่งหลังจากได้ชิมตัวอย่างข้าวไทยแล้ว ผู้บริโภคส่วนใหญ่สอบถามถึงชนิดข้าวและบรรจุภัณฑ์ เพื่อเข้าไปเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในซุปเปอร์มาร์เกตทันที ถือว่าการจัดกิจกรรมได้รับความสนใจมาก

ด้านนายวิทยากร มณีเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในฮ่องกงลดลงมาก โดยในปี 50 ฮ่องกงนำเข้าข้าวจากไทยเกือบ 90% ของการนำเข้ารวมของฮ่องกง แต่ในปี 56 เหลือเพียง 50% เท่านั้น เพราะราคาข้าวไทยสูงขึ้นมาก ทำให้ฮ่องกง โดยเฉพาะภัตตาคารและร้านอาหาร นำเข้าข้าวจากคู่แข่งอย่างเวียดนาม และกัมพูชา มากขึ้น เพราะราคาถูกกว่า รวมถึงมีการปลอมปนข้าวไทย โดยผู้ค้าของฮ่องกง ทำให้ผู้บริโภคไม่เชื่อมั่นในการบริโภคข้าวไทย

“ที่ผ่านมา พ่อค้าในฮ่องกงปลอมปนแบบมืออาชีพ โดยเอาข้าวประเทศอื่นมาผสมกับข้าวหอมมะลิไทย ตั้งขายราคาต่ำกว่านิดหน่อย แล้วหลอกผู้บริโภคว่าเป็นข้าวหอมมะลิไทย มีการเลียนแบบถุงบรรจุ เลียนแบบเครื่องหมายรับรองของกรมการค้าต่างประเทศ จากนั้นก็เอาขึ้นรถบรรทุกไปเร่ขายถึงบ้าน เข้าถึงผู้บริโภคมาก ผู้ซื้อไม่รู้ก็ซื้อ แต่พอกินแล้ว คุณภาพไม่ได้ ทำให้เกิดภาพลบกับข้าวหอมมะลิไทย ทำให้เราเสียส่วนแบ่งตลาดส่วนนี้ไป”

อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯได้นำเสนอแนวคิดการแก้ปัญหาปลอมปนให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาแล้ว โดยต้องการให้ทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทย และหน่วยงานศุลกากรของฮ่องกง เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาการปลอมปน ซึ่งจะทำให้ศุลกากรของฮ่องกงมีอำนาจตรวจจับผู้ปลอมปนข้าวไทย และทำปลอมถุงบรรจุข้าวเครื่องหมายรับรองข้าวได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้องเรียนก่อน

นอกจากนี้ สำนักงานฯยังร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เสริมสร้างภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทยในหมู่ผู้บริโภคชาวฮ่องกงด้วย เพื่อให้เชื่อมั่นในการบริโภคมากขึ้น อีกทั้งยังได้สร้างความเข้าใจกับผู้นำเข้าข้าวไทยให้เชื่อมั่นในคุณภาพ ซึ่งผู้นำเข้ารายใหญ่หลายรายที่นำเข้าจากไทยมานานยังจงรักภักดีข้าวหอมมะลิไทย มีเพียงบางรายที่หันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งในช่วงที่ราคาข้าวไทยแพง แต่ขณะนี้กลับมานำเข้าจากไทยแล้ว เพราะราคาข้าวหอมมะลิไทยขณะนี้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้แล้ว “จากแผนการแก้ปัญหาปลอมปน และการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในข้าวหอมมะลิไทยมากขึ้น เชื่อว่าส่วนแบ่งตลาดข้าวหอมมะลิไทยจะกลับมาอยู่ที่ 60% ในสิ้นปีนี้แน่นอน”

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์