ุ
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2557 มีปริมาณ 8.77 ล้านตัน มูลค่า 139,820 ล้านบาท โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 62.4% และมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 27.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ที่มีการส่งออกปริมาณ 5.40 ล้านตัน มูลค่า 110,124 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประเทศผู้นำเข้าข้าวไทย 5 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.เบนิน (BENIN) ปริมาณ 995,250 ตัน เพิ่มขึ้น 25.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 2.ไนจีเรีย (NIGERIA) ปริมาณ 977,075 ตัน เพิ่มขึ้น 1,441.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 3.จีน (CHINA) ปริมาณ 591,420 ตัน เพิ่มขึ้น 188.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 4.ไอวอรี่โคสต์ (COTE D′IVOIRE) ปริมาณ 559,116 ตัน เพิ่มขึ้น 130.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 5.แอฟริกาใต้ (SOUTH AFRICA) ปริมาณ 449,851 ตัน เพิ่มขึ้น 36.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
การส่งออกข้าวในเดือนตุลาคมมีปริมาณสูงถึง 1,214,125 ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนที่ผ่านมาถึง 26.5% และเป็นปริมาณส่งออกต่อเดือนที่สูงที่สุดของปีนี้ และสูงสุดนับจากเดือนพฤษภาคม 2554 ที่เคยส่งออกปริมาณ 1,303,448 ตัน เนื่องจากผู้ซื้อจากต่างประเทศต้องการนำเข้าข้าวเพื่อให้ทันก่อนช่วงเทศกาลคริสมาสต์และเทศกาลปีใหม่ ประกอบกับมีการส่งมอบข้าวให้กับรัฐบาลจีน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียตามสัญญาแบบรัฐต่อรัฐที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ โดยในเดือนตุลาคมมีการส่งออกข้าวขาวปริมาณรวม 466,747 ตัน เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน โดยข้าวขาวส่วนใหญ่จะส่งไปยังประเทศจีน อินโดนีเซีย ไอวอรีโคสต์ โมซัมบิก แองโกล่า มาเลเซีย เป็นต้น
ส่วนการส่งออกข้าวนึ่งมีปริมาณส่งออกสูงถึง 487,945 ตัน เพิ่มขึ้น 24.9% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน โดยมีการส่งออกไปยังประเทศไนจีเรียปริมาณสูงถึง 327,387 ตัน ส่วนการส่งออกไปยังประเทศเบนินมีปริมาณเพียง 54,007 ตัน ขณะที่ประเทศแอฟริกาใต้และเยเมนก็ยังคงนำเข้าอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน สำหรับการส่งออกข้าวหอมมะลินั้นมีปริมาณส่งออกรวม 226,692 ตัน เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน เนื่องจากเดือนที่ผ่านมามีการส่งออกปลายข้าวหอมมะลิเพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ข้าวหอมมะลิคุณภาพดีมีการส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา กานา ฮ่องกง สิงคโปร์ แคนาดา เป็นต้น ส่วนปลายข้าวหอมมะลิมีการส่งออกไปยังประเทศ ไอวอรีโคสต์ กานา เป็นต้น
สถานการณ์ราคาส่งออกข้าวในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนอ่อนตัวลงตามภาวะตลาดและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง แต่ในช่วงปลายเดือนราคาเริ่มขยับขึ้นตามภาวะความต้องการข้าวในตลาดเพื่อส่งมอบให้ลูกค้า ประกอบกับภาวะค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากช่วงต้นเดือน ทั้งนี้ราคาที่ประกาศโดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 ข้าวขาว 5% ราคาอยู่ที่ 420 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี) โดยในขณะนี้ราคาข้าวของไทยได้กลับขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงกว่าคู่แข่งทุกประเทศ ซึ่งจากรายงานของ ORYZA.COM ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 ข้าวขาว 5% ของเวียดนามราคาอยู่ที่ 385-395 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี) ในขณะที่ข้าวขาว 5% ของอินเดียราคาอยู่ที่ 390-400 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี) และปากีสถาน ราคาอยู่ที่ 380-390 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี)
ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า สมาคมฯคาดว่าในเดือนพฤศจิกายนปริมาณส่งออกจะอยู่ในระดับ 900,000 ตัน เนื่องจากในขณะนี้ผู้ส่งออกกำลังเร่งส่งมอบข้าวให้กับรัฐบาลจีน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียตามสัญญาแบบรัฐต่อรัฐที่ยังคงมีข้าวค้างส่งมอบ ประกอบกับตลาดประจำแถบเอเชียที่นิยมบริโภคข้าวใหม่โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิจะซื้อข้าวคุณภาพดีสำหรับบริโภคในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ขณะที่ตลาดแอฟริกาก็ยังคงมีการสั่งซื้อข้าวไทยอย่างต่อเนื่องทั้งข้าวขาว และข้าวนึ่ง แต่ปริมาณอาจจะลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้บ้าง อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงปลายปีนี้ภาวะการแข่งขันทางการค้ากับประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน จะรุนแรงขึ้นเนื่องจากผลผลิตฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาดในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งจะเห็นได้จากประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ได้ปรับลดราคาลงมาเพื่อแข่งกับประเทศไทยแล้ว
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
|