ุ
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่ากรมฯได้รับผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวทั้งด้านกายภาพและการตรวจโดยห้องปฏิบัติการข้าวในสตอกของรัฐตามโกดังต่างๆแล้วและภายในวันหยุดสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้าจะเร่งดำเนินการจัดระบบและจัดทำแผนที่โกดังต่างๆให้เสร็จเรียบแล้วก่อนที่จะออกประกาศหลักการและเงื่อนไขประมูลข้าวสตอกรัฐรอบ 2 ได้ โดยจะพยายามทำทุกขั้นตอนให้แล้วเสร็จและเปิดประมูลได้ไม่เกินกลางเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นการเปิดประมูลข้าวสารในสตอกรัฐรอบ 2 นี้ คาดว่าปริมาณจะเกินกว่า 1 แสนตันแต่จะเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับการคัดแยกจัดระบบและโกดังตามผลการตรวจคุณภาพข้าวที่ได้รับมาและจะไม่นำสต๊อกปริมาณข้าวสารที่เหลือประมูลรอบแรกกว่า9 หมื่นตันมารวมกับการเปิดประมูลในรอบที่ 2 เนื่องจากปริมาณข้าวส่วนนี้ยังมีปัญหาในด้านคุณภาพข้าวที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพข้าวและคงต้องรอทางคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่าหากผลการตรวจสอบเสร็จแล้วจะให้นำข้าวส่วนนี้เปิดประมูลหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.)ได้เห็นชอบผลการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐ ครั้งที่ 1 /2557 แล้ว โดยให้คัดเฉพาะข้าวที่คุณภาพผ่านการตรวจสอบทั้งด้านกายภาพและการตรวจโดยห้องปฏิบัติการและให้นำค่าปรับปรุงคุณภาพข้าวมาประกอบการคำนวณเกณฑ์ราคาข้าวขั้นต่ำที่จะตกลงขาย (Floor Price)ด้วยเนื่องจากการเก็บข้าวในสตอกของรัฐในปริมาณมากและเก็บมาระยะเวลาพอสมควร จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพข้าวมากกว่าการเก็บรักษาในเชิงการค้าปกติ ซึ่งผู้ที่จะมาประมูลข้าวจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าปรับปรุงคุณภาพข้าวดังกล่าวทำให้มีผู้ชนะการประมูลที่ผ่านเกณฑ์ราคา จำนวน 11ราย คิดเป็นปริมาณ73,200ตันมูลค่ากว่า740ล้านบาท

ทั้งนี้ราคาข้าวที่ประมูลได้เป็นราคาที่สูงใกล้เคียงกับราคาตลาด ตามคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย โดยราคาชนะประมูลสูงสุด คือ ปลายข้าวหอมมะลิตันละ 7,610 บาท และราคาข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ประมูลสูงสุดที่ตันละ28,000บาทเป็นต้น

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)