ุ
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะผลักดันการส่งออกข้าวในระยะเร่งด่วน 3-6 เดือนข้างหน้า โดยจะเจรจาขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับ COFCO ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนให้ซื้อข้าวใหม่ปีการผลิต 2557 และปี 2557/58 ปริมาณ 3 แสนตันตามสัญญาที่ได้จัดทำไว้แล้ว และจะเจรจาขยายสัญญาให้ซื้อเพิ่ม มีเป้าหมาย 1 ล้านตัน รวมทั้งจะเจรจากับผู้ซื้อมาเลเซียที่มีความประสงค์ จะซื้อข้าวให้ซื้อข้าวใหม่ประมาณ 7 แสนตัน

"เชื่อว่าหากเจรจาสำเร็จจะช่วยดึงผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ออกสู่ตลาดได้มาก และมีผลทำให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง"

กระทรวงฯ ยังมีแผนที่จะขยายตลาดข้าวสารภายในประเทศ โดยหาช่องทางใหม่ในการขายข้าวไปยังหน่วยงานราชการและหน่วยงานอื่นๆ เช่น โรงพยาบาล ค่ายทหาร และเรือนจำ เป็นต้น ซึ่งมีเป้าหมายในการขายข้าวให้ได้ประมาณ 1.8 แสนตัน

เล็งเลิกมาตรฐานหอมมะลิ98%

สำหรับมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย ที่ผู้ส่งออกได้แสดงความกังวลว่าไม่สามารถปฏิบัติตามได้ โดยเฉพาะมาตรฐานพิเศษที่ 98% โดยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแก้ไขประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่องกำหนดให้ข้าวหอมมะลิไทยเป็นสินค้ามาตรฐานและมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 อยู่ โดยจะให้คงเหลือเพียงมาตรฐานเดียว คือ 92% ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การส่งออกข้าวหอมมะลิไทยมีความคล่องตัวมากขึ้น

นางสาวชุติมา กล่าวว่า กระทรวงฯ ยังได้มีการจัดทำโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากปริมาณ 2 ล้านตัน โดยจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการในอัตรา 3% ตามวงเงินที่กู้ยืมจากสถาบันการเงิน เริ่มซื้อข้าวตั้งแต่พ.ย.2557-ม.ค.2558 และให้เก็บสต็อกตั้งแต่พ.ย.2557-ก.ค.2558 ใช้เงินดำเนินการ 315 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยังมีมาตรการดูแลราคาข้าวเปลือกโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยจะให้สินเชื่อกับเกษตรกรในอัตรา 80% ของราคาตลาดเฉลี่ย วงเงินกู้รายละไม่เกิน 3 แสนบาท เพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกในช่วงออกสู่ตลาดมาก โดยให้เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางของตัวเอง จะดำเนินการในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเป้าหมาย 1.5 ล้านตันข้าวเปลือก โดยมีวงเงินดำเนินการ 1,121 ล้านบาท

“เราแผนการรับมือกับผลผลิตข้าวนาปี 2557/58 ที่กำลังจะออกมา ซึ่งจะช่วยให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพ"นางสาวชุติมากล่าว

สำหรับแนวโน้มราคาข้าวจากนี้ไป คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง เพราะปริมาณผลผลิตข้าวโลกได้รับความเสียหายจากภาวะภัยแล้ง และผลผลิตข้าวของไทยก็มีปริมาณต่ำกว่าที่ประเมินเอาไว้ ขณะที่ประเทศที่นำเข้าข้าว ก็เริ่มมีการหาซื้อข้าวเพิ่มขึ้น ซึ่งล้วนแต่ส่งผลดีต่อราคาข้าว

พบข้าวเน่าในสต็อกถึงแสนตัน

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ซึ่งได้เข้าร่วมตรวจสต็อกข้าวทั่วประเทศว่า ขณะนี้ มีข้าวในสต็อกที่ไม่สามารถนำไปบริโภคได้หรือข้าวเน่าจำนวนประมาณ 1 แสนตัน จาก 18 ล้านตัน ในจำนวนข้าวเสียดังกล่าว ตนได้เจรจาขายให้กับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อนำไปผลิตเอทานอล

“คณะกรรมการและประธานปตท. ได้มีการหารือนอกรอบ ในเรื่องการนำข้าวมาทำเป็นเอทานอล ซึ่งเขาสนใจ จากนี้ไปต้องมาเจรจากันอย่างเป็นทางการว่า จะขายข้าวดังกล่าวในราคาเท่าใด และจำนวนเท่าใด”เขากล่าว

รังสรรค์เล็งปิดบัญชีจำนำข้าว

คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาลชุดก่อน โดยมีตนเป็นประธาน มีกระทรวงพาณิชย์เป็นเลขานุการ ขณะเดียวกัน ก็มีตัวแทนจากสภาวิชาชีพการบัญชีเข้าร่วมเป็นกรรมการเพิ่มเติมด้วย ซึ่งตนจะเรียกคณะกรรมการหารือ เพื่อเร่งสรุปเรื่องดังกล่าว แต่คงต้องรอให้ขั้นตอนการตรวจสต็อกข้าวเรียบร้อยก่อน เพื่อนำปริมาณสต็อกข้าวมาร่วมคำนวณผลการดำเนินโครงการ

“เราต้องรอให้การตรวจสต็อกข้าวในบัญชีเรียบร้อยก่อน เพื่อนำตัวเลขสต็อกข้าวมาปิดบัญชี เบื้องต้น มีการคาดการณ์ว่า การตรวจสต็อกข้าวจะแล้วเสร็จประมาณเดือนส.ค.นี้”เขากล่าว

พิจิตรพบข้าวหาย4.7หมื่นตัน

พล.ต.ไสว พลการ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ แถลงผลการดำเนินการตรวจสอบปริมาณข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาล ของคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวของรัฐบาลทั้ง 7 ชุด พบว่า โกดังทั้ง 87 แห่ง และไซโล 17 แห่ง รวม 104 แห่ง ใน 12 อำเภอของจ.พิจิตร มีข้าวหาย 47,000 ตัน ในไซโลของ บริษัท เคทีบี อะโกร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ซึ่งเป็นคลังสินค้าในความดูแลขององค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยเจ้าหน้าที่ อคส.แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบางมูลนากแล้ว และตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อเอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคู่สัญญา ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเก็บรักษาข้าว

รวบ2เสี่ยพี่น้องลักข้าวที่ปทุมฯเกือบร้อยล.

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการจับกุมนายกิตติพงศ์ แสนวรางกูล อายุ 37 ปี และนายธีระศักดิ์ แสนวรางกุล อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนวางแผนทำสัญญากับองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) เพื่อให้เช่าพื้นที่โกดังในการเก็บข้าว เมื่อทางอ.ต.ก.นำข้าวมาเก็บที่โกดังดังกล่าว ทั้ง 2 คนจึงลักทรัพย์ข้าวที่ฝากไว้หลายครั้ง รวมปริมาณข้าวที่สูญหาย 98,000 กระสอบ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 98,435,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไป

นักเศรษฐศาสตร์หนุนนโยบายข้าวคสช.

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ จากองค์กรชั้นนำ 34 แห่ง จำนวน 72 คน เรื่อง “เปรียบเทียบนโยบายข้าวจากยุคอภิสิทธิ์ ยิ่งลักษณ์ ถึง คสช. นโยบายใดโดนใจนักเศรษฐศาสตร์” เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 16-28 ก.ค.

นักเศรษฐศาสตร์ 63.9% ให้นโยบายลดต้นทุนการผลิตข้าว ของ คสช.เหนือนโยบายประกันรายได้ยุคนายกฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนโยบายจำนำข้าวในยุคนายกฯ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากนักเศรษฐศาสตร์เพียง 13.9% และ 1.4% ตามลำดับ

นักเศรษฐศาสตร์ยังให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินนโยบายลดต้นทุนการผลิตข้าวของ คสช. 1.ต้องให้ความสำคัญกับการตลาด การขยายตลาด ควบคู่กับการลดต้นทุนการผลิต รวมถึงควรดูแลกลไกตลาดให้ทำงานเพื่อป้องกันพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบชาวนา

2.การดำเนินนโยบายลดต้นทุนต้องทำพร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างจริงจัง และ 3.บูรณาการองค์ความรู้ต่างๆ ของเกษตรกร

ปปช.ชงคดีจำนำข้าวให้อสส.สัปดาห์หน้า

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการส่งสำนวนอาญาคดีจำนำข้าวให้อัยการสูงสุด (อสส.) ว่า ขณะนี้ทำสำนวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการส่งให้อัยการสูงสุด ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์