ุ
นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ในปี 2558 คาดว่าปริมาณการส่งออกข้าวของไทยจะสูงเป็นประวัติการณ์ มีปริมาณสูงถึง 12 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 20% สูงกว่าสถิติเดิมที่มียอดส่งออก 10.7 ล้านตัน และสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ส่งออก 10.5 ล้านตัน
ส่วนมูลค่าการส่งออกในปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มีมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท เนื่องจากกลไกตลาดข้าวของไทยมีความแข็งแรงมาก ภาคเอกชนมีความเชี่ยวชาญสูง และราคาข้าวอยู่ในระดับที่สู้กับคู่แข่งได้ เห็นได้จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้เข้ามาแทรกแซงราคาข้าวจนทำให้ยอดการส่งออกข้าวของไทยลดลงเหลือเพียง 7 ล้านตัน ตกจากอันดับ 1 ไปอยู่ที่อันดับ 3 แต่หลังจากที่ปล่อยให้กลไกราคาข้างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็ทำให้ภายใน 1 ปี ไทยกลับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้
อย่างไรก็ตาม ราคาอาจจะไม่ดีขึ้น คาดว่าราคาข้าวสารจะอยู่ที่ 15-16 บาท/กก. ต่ำกว่าปีก่อนที่ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 16 บาท/กก. เนื่องจากราคาข้างจะสัมพันธ์กับราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่พอสมควร
“ในช่วงที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในปี 1973-1974 และช่วงปี 2007-2008 ทำให้ใน 2 ช่วงดังกล่าวราคาข้าวพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในปี 2007 ราคาพุ่งไปถึง 1 พันดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ดังนั้นจึงมองว่าในช่วงที่ราคาน้ำมันโลกร่วงลงอย่างรุนแรง ก็จะส่งผลต่อราคาข้าวเช่นกัน ในขณะนี้ก็เห็นถึงผลกระทบจากประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเป็นหลักอย่างไนจีเรียก็ได้รับผลจากราคาน้ำมันตกต่ำ ทำให้ลดการนำเข้าข้างนึ่งจากไทยเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประเทศตะวันออกกลางที่นำเข้าข้าวจากไทยหลายล้านตันก็มีแนวโน้มสั่งซื้อข้าวจากไทยลดลง” นายวิชัย กล่าว
ปีนี้ข้าวไทยต้องจับตาความเสี่ยงในเรื่องปัญหาภัยแล้งที่จะรุนแรงมากในปีนี้ ส่งผลให้การปลูกข้าวนาปรังในฤดูที่จะถึงนี้มีผลผลิตอาจจะลดลงประมาณ 50% หรือ 2-3 ตันข้าวเปลือก แต่ก็จะกระทบผลผลิตข้าวทั้งปีไม่มาก เพราะเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนต่อไปผลผลิตก็จะกลับมาปกติ
ส่วนราคาข้าวในช่วงดังกล่าวอาจจะเพิ่มขึ้นบ้างแต่ไม่มาก เพราะราคาตลาดโลกยังอยู่ในระดับต่ำ
ส่วนเป้าหมายการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลที่มีกว่า 17 ล้านตันให้ได้ภายใน 2 ปีนั้น มองว่าทำได้ยาก เพราะในแต่ละปีจะมีข้าวรอบใหม่เข้ามาสู่ตลาด โดยในปีนี้กระทรวงเกษตรฯคาดว่าจะมียอดผลิตข้างทั้งหมด 23 ล้านตัน ใช้ในประเทศ 10 ล้านตัน และเหลือส่งออก 13 ล้านตัน แต่ถ้าจะผลักดันส่งออกข้าวในสต็อกให้หมดใน 2 ปี ก็ต้องส่งออกข้าวรวมทั้งหมดปีละ 20 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 50% ของตลาดข้าวโลก ที่มีความต้องการปีละ 41 ล้านตัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และหากยิ่งเร่งระบายข้าวออกก็จะทำให้ราคาในตลาดโลกลดลง
ทั้งนี้ ราคาข้าวในตลาดโลกคาดว่าจะทรงตัวและมีแนวโน้มที่จะลดลง โดยในปัจจุบันราคาข้าวของไทยอยู่ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน สูงกว่าประเทศเวียดนาม และอินเดียที่อยู่ในระดับ 370-380 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ซึ่งยังมีช่วงห่างที่พอจะแข่งขันได้ แต่ถ้าราคาข้างของไทยแพงกว่าคู่แข่ง 30 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันขึ้นไป ก็จะแข่งขันได้ยาก ดังนั้นจึงมองว่าหากประเทศคู่แข่งลดราคาข้าวลงมากกว่านี้ ก็จะทำให้ราคาภายในประเทศลดต่ำลงด้วย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
|