ุ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะนางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่7-9พฤษภาคมนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีแผนจะเดินทางไปเยือนเมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อประชุมคณะกรรมการบริหารร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 2 โดยมีตนและนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย เป้าหมายเพื่อไปเจรจาเรื่องสินค้าเกษตรต่อเนื่องจากครั้งก่อนที่นายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ได้เดินทางมาประชุมที่ไทยเมื่อวันที่ 11-12 มีนาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นน่าจะเป็นการขอให้ทางจีนสนับสนุนซื้อสินค้าจากไทยทั้งในส่วนของข้าวและยางพาราเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์เตรียมเข้าร่วมประมูลข้าวหลังทางรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ส่งสัญญาณว่าต้องการเปิดประมูลข้าวอีก 2-3 แสนตัน และทางอินโดนีเซียประกาศจะเปิดประมูลข้าวอีกปริมาณ 1 ล้านตันโดยในส่วนของฟิลิปปินส์คาดว่าน่าจะเปิดประมูลประมาณกลางเดือนหน้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สนใจที่จะเข้าร่วมประมูล แต่ทั้งนี้ต้องขอดูรายละเอียดเงื่อนไขการประมูลก่อน

ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย  เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ถึงกระแสการเปิดประมูลข้าวของฟิลิปปินส์ว่าได้รับข้อมูลมาเช่นกันแต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนเพราะบางกระแสก็บอกว่าฟิลิปปินส์จะปิดประมูลข้าวปริมาณ 3 แสนตัน บางกระแสก็บอกว่า 5 แสนตัน  ประมาณกลางเดือนนี้แต่ก็ยังไม่เห็นประกาศอย่างเป็นทางการจากฟิลิปปินส์ แต่คาดว่าน่าจะเป็นข้าวขาว 15% และข้าวขาว 25%  ซึ่งถ้าทางฟิลิปปินส์เปิดประมูลเอกชนเองก็มีความสนใจที่จะเข้าร่วม เพราะขณะนี้ตลาดอยู่ในภาวะเงียบมากไม่มีออร์เดอร์ใหญ่ ๆ เข้ามา แต่ทั้งนี้ก็กังวลว่าราคาของไทยจะสู้ราคาของเวียดนามได้หรือไม่เพราะขณะนี้ราคาข้าวของเวียดนาม(ข้าวขาว 5%) อยู่ที่ 255-360 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันเท่านั้น ขณะที่ข้าวชนิดเดียวกันของไทยอยู่ที่ 390 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ซึ่งต่างกันถึง 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนราคาของอินเดียและปากีสถานยังคงอยู่ที่ 370 ดอลลาร์สหรัฐฯ

"ก็ต้องดูว่ารัฐบาลจะช่วยสนับสนุนอะไรเอกชนบ้าง เพราะถ้าเอกชนไปเองคงยากอย่าลืมว่าราคาข้าวของเวียดนามถูกว่าของไทยมา และเขาเองก็ต้องการระบายข้าวด้วย ส่วนการเปิดประมูลของอินโดนีเซียนั้นยังไม่ได้รับข่าวว่าอินโดนีเซียจะเปิดประมูล ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดช่วงกันยายน-ตุลาคม"

ส่วนแนวโน้มราคาข้าวในขณะนี้ยังทรงตัวไม่ขยับไปมากกว่านี้ ประกอบกับตลาดมีความเงียบเหงา กระทรวงพาณิชย์ไม่มีการเปิดปะมูลขายข้าในสต๊อกในรอบที่ 3 ของปีนี้ ที่สำคัญคือไม่มีคำสั่งซื้อล็อตใหญ่ๆเข้ามามีแต่คำสั่งซื้อล็อตเล็ก ๆ เท่านั้น ดังนั้นราคาข้าวจึงยังไม่ขยับไปกว่าเดือนที่ผ่านมา แต่ผลจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา น่าจะช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงซึ่งก็จะช่วยให้ราคาข้าวไทยลดลงมาอยู่ที่ 370 ดอลลาร์สหรัฐฯได้บ้างจากที่เวลานี้ค่าเงินบาทเฉลี่ยที่ 33บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ต้องดูว่าจะยืนในระดับนี้ได้นานแค่ไหน

ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ รายงาน การส่งออกข้าวไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณ 2.12 ล้านตัน มูลค่า 3.57หมื่นล้านบาท โดยปริมาณส่งออกลดลง 3.6% และมูลค่าส่งออกลดลง 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่มีการส่งออกปริมาณ 2.20 ล้านตัน มูลค่า 3.76 หมื่นล้านบาท โดยไตรมาสแรกการส่งออกข้างไทยอยู่อันดับ 2 รองจากอินเดียที่มีการส่งออก 2.25 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 45.4%

สำหรับผู้นำเข้าข้าวไทย 5 อันดับแรกในไตรมาสแรกปี 2558 ได้แก่ 1.ไนจีเรีย ปริมาณ 2.20 แสนตันเพิ่มขึ้น71.2% 2.ฟิลิปปินส์ ปริมาณ 2.13 แสนตัน เพิ่มขึ้น 283.6% 3.ไอวอรีโคสต์ ปริมาณ 1.46 แสนตัน ลดลง 15.9% 4.จีน ปริมาณ 1.38 แสนตัน ลดลง 8.2% และ 5.แอฟริกาใต้ ปริมาณ 1.30 แสนตัน เพิ่มขึ้น 44.0%

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ