ุ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรไทย-จีน (12 มี.ค.)ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว โดยในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้จะนำคณะเดินทางไปจีนเพื่อลงนามซื้อขายสินค้าเกษตร

โดยในส่วนของข้าวมีปริมาณรวม 2 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเก่า 1 ล้านตัน ข้าวใหม่ 1 ล้านตัน กำหนดส่งมอบภายในปี 2559 ในราคาตลาด ณ ท่าเรือกรุงเทพ (เอฟโอบี) ในส่วนของยางพามีปริมาณ 2 แสนตัน ราคาเอฟโอบีบวกราคามิตรภาพ ซึ่งจะสรุปอีกครั้งว่าควรเป็นราคาเท่าใด นอกจากนี้จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรจากไทยตลอดช่วงเวลาที่การสร้างทางรถไฟจะแล้วเสร็จ ส่วนสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีเดิมของรัฐบาลก่อนปริมาณ 1 ล้านตัน ที่ส่งมอบไปได้เพียง 3 แสนตันนั้น จีนได้ขอให้ไทยส่งมอบเพิ่มอีกภายในเดือนกรกฎาคมนี้อีก 3 แสนตัน เป็นข้าวขาว 5% ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมปทุมธานี ข้าวเหนียวปีการผลิตล่าสุดในราคาตลาดซึ่งจะทำให้ราคาข้าวในประเทศมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเพราะมีความต้องการจากต่างประเทศมารออยู่แล้ว

สำหรับรายละเอียดการส่งมอบสินค้าภายใต้สัญญาที่จะดำเนินการลงนามในส่วนข้าวสารรัฐบาลไทย ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาลจีนมอบหมายให้คอฟโก้ คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ได้ตกลงกำหนดกลไกต่างๆ เพื่อให้การซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่น ได้แก่ (1) กลไกการเสนอราคา ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกันว่าการซื้อขายแบบเอฟโอบี โดยการกำหนดราคาจะคำนึงถึงกลไกราคาในตลาดโลก สำหรับชนิดและปริมาณข้าวจะมีการตกลงกันต่อไป (2) กลไกด้านโลจิสติกส์ ฝ่ายจีนจะเป็นผู้จัดหาเรือขนส่งสินค้าแบบคอนเทนเนอร์ และมีการกำหนดปริมาณการขนส่งสินค้าขั้นต่ำในแต่ละครั้ง ไม่เกิน 1 แสนตัน หรือห้ามต่ำกว่า 60% ของปริมาณขั้นต่ำ 1 พันตัน หรือ 40% ของปริมาณขั้นต่ำ 500 ตัน และ (3) กลไกด้านคุณภาพ จะมีการแต่งตั้งผู้แทนที่จะกำกับดูแลการตรวจสอบข้าวอย่างเข้มงวดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ระบุไว้ในสัญญา

สำหรับรายละเอียดการส่งมอบข้าวจะใช้การส่งมอบแบบตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งแตกต่างจากวิธีการค้าปกติที่ส่งแบบ Bulk (แบบกระสอบใหญ่ขนาด 1 พันกิโลกรัม) เพื่อการควบคุมคุณภาพ และจำนวน ยืนยันว่าจะไม่ซ้ำรอยสัญญาจีทูจีฉบับเก่าที่มีปัญหาการส่งมอบล่าช้า

ด้านนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จะต้องเร่งตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติตามสัญญาของไทยและจีนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว จากนั้นจะประสานไปยังสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเพื่อให้เอกชนเข้ามาร่วมปรับปรุงสภาพข้าวและส่งมอบให้จีนตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญา เบื้องต้นจะต้องส่งมอบข้าวฤดูการผลิตใหม่ให้จีนตามความต้องการก่อน ส่วนข้าวเก่าในสต๊อกรัฐบาลที่ระบุในสัญญาจะเป็นการส่งมอบในลำดับต่อไป รวมถึงสามารถนำข้าวเก่าในสต๊อกไปส่งมอบให้เอกชนตามสัดส่วนที่ส่งมอบไปได้

ขณะที่ความคืบหน้าการระบายข้าวครั้ง 3/2558 ต้องรอดูสถานการณ์ตลาดอีกครั้ง ส่วนการประมูลครั้งล่าสุด เบื้องต้นจะระบายได้ประมาณ 7 แสนตันจากปริมาณรวม 1 ล้านตันที่เปิดระบาย ขณะนี้กำลังสรุปรายละเอียดและข้อกฎหมายที่ต่อเนื่องมาจากการประมูลครั้งที่ 1/2558 ที่มีบางโกดังได้นำมาประมูลใหม่ให้ชัดเจนก่อนเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติขายต่อไป

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ