ุ
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.เศรษฐกิจ ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในเร็วๆ นี้ จะหารือถึงแนวทางดูแลเกษตรกร หลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง โดยเฉพาะผู้ปลูกข้าว ที่ต้องเลื่อนการปลูกข้าวนาปีปี 58/59 ออกไปจากการเพาะปลูกปกติ 1 เดือน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเสนอมาตรการลดค่าครองชีพให้กับเกษตรกร ด้วยการจัดรถเคลื่อนที่ (โมบาย) นำสินค้าราคาถูก และจำเป็นต่อชีวิตประจำวันไปจำหน่ายให้กับเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ขณะเดียวกัน กระทรวงอื่นๆ ก็กำลังทำแผนช่วยเหลือเช่นกัน
ส่วนสถานการณ์ราคาข้าวเปลือก คาดว่า แนวโน้มราคาข้าวจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปัญหาภัยแล้งรุนแรงกว่าที่คิด ซึ่งนอกจากไทยมีปัญหาด้านการเพาะปลูก และผลผลิตลดลงแล้ว ประเทศผู้ปลูกข้าวอื่น อย่างอินเดียก็มีปัญหาภัยแล้ง และผลผลิตลดลงเช่นกัน แต่ราคาจะสูงขึ้นแน่นอน ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาข้าวไทย และการส่งออกข้าวของไทย โดยปีนี้ยังมั่นใจว่าไทยจะส่งออกข้าวสารได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน
สำหรับการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงราคาถูกขายให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้จะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง เพื่อกำหนดขอบเขตการดำเนินการให้ชัดเจน หลังจากที่ระดับเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกันไปแล้ว เพื่อเร่งรัดให้ผลิตข้าวถุงออกมาจำหน่ายได้ภายในเร็วๆ นี้ เบื้องต้นจะนำข้าวสารในสต๊อก 5,000 ตันมาผลิต โดยจะจัดหาข้าวและปรับปรุงคุณภาพ จากนั้นจะส่งข้าวต่อให้กับสหกรณ์ หรือชุมชนที่เข้มแข็งที่คัดเลือกมาแล้วโดยกระทรวงเกษตรฯ เพื่อนำไปบรรจุถุงและจำหน่าย โดยกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้กำกับดูแลการกระจายข้าวถุงไปยังประชาชนผู้มีรายได้น้อย ตามเกณฑ์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน(จปฐ.)
"คาดว่าจะผลิตออกมาจำหน่ายได้ภายใน เร็วๆ นี้ และน่าจะทำได้ก่อน 3 เดือน เร็วกว่านโยบายที่นายกฯ ได้ให้ไว้ โดยจะเน้นข้าวขาว บรรจุถุงขนาดถุงละ 2 กก. และ 4 กก.ซึ่งบรรจุถุงละ 2 กก.ทั้งหมด จะผลิตได้รวม 2.5 ล้านถุง แต่หากทำถุงละ 4 กก.จะผลิตได้ 1.25 ล้านถุง โดยราคาจำหน่ายจะถูกกว่าราคาข้าวถุงในท้องตลาดไม่น้อยกว่า 10%”
นอกจากนี้ มีแผนที่จะจัดงาน "ท็อป ไทย แบรนด์" ในส่วนภูมิภาค ลักษณะเช่นเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีจัดตลาดนัดที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจะนำสินค้าเกษตร ผลไม้ และสินค้าต่างๆ มาจำหน่ายให้ประชาชนในพื้นที่ แต่จะเชิญต่างชาติ นักท่องเที่ยวให้เข้ามาซื้อสินค้าด้วย โดยในเดือนก.ค.นี้ กำหนดจะจัดที่ จ.สุราษฎร์ธานี เดือนส.ค.ที่ จ.เชียงใหม่ และต่อไปที่ภาคอีกสาน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้าขาย และระบายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์์
|