ุ
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ คณะทำงานด้านการระบายข้าวจะหารือเป็นการภายในถึงแผนการระบายข้าวรอบที่ 3/2558 โดยจะพิจารณาถึงสถานการณ์ราคา และปริมาณผลผลิตข้าวซึ่งเป็นช่วงที่ข้าวนาปรัง 2558 กำลังออกสู่ตลาดว่าเหมาะสมที่จะมีการระบายต่อเนื่องหรือไม่ และหากจะระบายควรเป็นปริมาณเท่าใดเพราะต้องให้ความสำคัญกับราคาข้าวเปลือกในตลาดไม่ให้ลดลงซึ่งจะกระทบต่อรายได้ของชาวนา

ทั้งนี้ สถานการณ์ตลาดข้าวยังไม่คึกคักเนื่องจากผู้ซื้อในต่างประเทศยังมีข้าวในสต๊อกอยู่ หลังมีการนำเข้าข้าวในปริมาณมากก่อนหน้านี้ เช่น อินโดนีเซีย ที่ส่วนหนึ่งซื้อไปจากไทยและมีการส่งมอบแล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ในระยะนี้จะไม่มีคำสั่งซื้อจากอินโดนีเซีย ส่วนฟิลิปปินส์ที่ซื้อข้าวจากไทย 2 แสนตันกำลังอยู่ระหว่างการส่งมอบ เช่นเดียวกับจีนที่กำลังเจรจาส่งมอบข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในส่วนสัญญา 1 ล้านตันแรกที่ส่งมอบไปก่อนหน้านี้ 3 แสนตันและกำลังเจรจาส่งมอบอีก 1-3 แสนตัน
นอกจากปัจจัยผู้ซื้อมีข้าวในมือจำนวนมากแล้ว ยังมีประเด็นเศรษฐกิจโลกที่กำลังซบเซาทำให้ผู้ซื้อต้องพิจารณามากกว่าปกติในการเปิดนำเข้าข้าวแต่ละครั้งส่งผลให้ภาพรวมราคาตลาดค่อนข้างนิ่งและมีข้าวบางชนิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย

 “ตอนนี้ราคาข้าวในตลาดนิ่งๆ เพราะตลาดไม่เดินจากหลายเหตุผล แต่ไทยก็ยังมีข้อตกลงซื้อขายแบบ จีทูจี อยู่ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้ราคาข้าวในประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยดิวข้าวจีทูจีอีกล็อตใหญ่ที่จะเซ็นสัญญากัน 8-9 พฤษภาคมนี้ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ )จะบินไปที่ประเทศจีนปริมาณ 2 ล้านตัน ก็จะช่วยเรื่องราคาได้มากเมื่อรวมกับออร์เดอร์ของเอกชนที่มีอยู่ตามปกติแล้วก็เชื่อว่าราคาข้าวจะไม่เลวร้ายจนเกินไป ซึ่งคาดว่าตลาดน่าจะกลับมาคึกคักได้ปลายเมษายน เพราะจะมีการส่งมอบข้าวและผู้ซื้อจะต้องเริ่มกลับเข้ามานำเข้าอีกครั้ง ” นางดวงพร กล่าว

ในส่วนผลการระบายข้าวครั้งที่ 2/2558 ขณะนี้สรุปและส่งให้นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการระบายข้าวแล้ว ตามขั้นตอนจะมีการเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)เพื่ออนุมัติขายและทำสัญญาต่อไป ซึ่งหากอนุมัติจะระบายได้ประมาณ 7 แสนตันจากปริมาณที่เปิดระบายทั้งหมด 1 ล้านตัน ขณะเดียวกันได้ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.)สรุปปริมาณมันสำปะหลังในสต๊อกรัฐบาลว่ามีเท่าใดและสภาพเป็นอย่างไร ก่อนกำหนดแผนระบาย เช่นเดียวกับสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่รัฐบาลมีแผนให้ระบายตามความเหมาะสมของสถานการณ์ตลาด

รายงานข่าวแจ้งว่า ราคาส่งออกข้าวสาร (FOB) สัปดาห์นี้ (18 มี.ค.) ลดลงจากสัปดาห์ก่อน (11 มี.ค.) เฉลี่ยตันละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ โดยข้าวหอมมะลิ ตันละ 1,073 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากตันละ 1,081 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวขาว 5% ตันละ 403 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากตันละ 415 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวขาว 25% ตันละ 386 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากตันละ 395 ดอลลาร์สหรัฐ และ ข้าวนึ่ง 100% ตันละ 409 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก ตันละ 421ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ณ วันที่ 18 มีนาคม เฉลี่ยตันละ 7.70- 7.90 พันบาท

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ