ุ
ร้อยตำรวจโท เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ กล่าวว่า การส่งออกข้าวไทยในปีนี้ น่าจะได้ตามเป้าหมาย 9.5-10 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นการส่งออกข้าวขาว 4.8 ล้านตัน ข้าวหอมมะลิ 2.2 ล้านตัน ข้าวนึ่ง 2.2 ล้านตัน ข้าวเหนียว 2 แสนตัน และข้าวหอมปทุมธานี 1 แสนตัน ซึ่งครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสามารถส่งออกไปแล้วกว่า 4.5 ล้านตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.1

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯยังคงมองว่า การส่งออกข้าวครึ่งปีหลังน่าจะส่งออกได้ดีกว่าครึ่งแรกของปี หรือส่งออกได้ถึงเดือนละ 8 แสนตัน เพราะตลาดยังมีความต้องการข้าวต่อเนื่อง ขณะที่ปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลงร้อยละ 15-20 หรือหายไป กว่า 2-3 ล้านตันข้าวสาร แต่ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ไทยจะระบายข้าวในสตอกรัฐบาล เพื่อลดแรงกดดันด้านราคาข้าวเปลือกของไทย และทำให้ราคาข้าวจะมีแนวโน้มสูงขึ้นได้ โดยราคาข้าวขาว 5% ราคาอยู่ที่ 395 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีผลต่อการส่งออกข้าวของไทย คือภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน อาจกระทบให้ประเทศผู้ซื้อชะลอการนำเข้าข้าวจากไทย

ทั้งนี้ สมาคมฯเสนอให้ภาครัฐเพื่อผลักดันการส่งออกข้าวในครึ่งปีลังเช่น ขอให้ระบายสตอกข้าวรัฐบาลดำเนินการอย่างถูกต้อง เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะตลาด เร่งเจรจาทำสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี กับรัฐบาลจีนในส่วนที่ยังคงค้าง 2 ล้านตัน รวมทั้งควบคุมดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับเหมาะสมและมีเสถียรภาพ และยังเชื่อว่าตอนนี้ปัญหาราคาข้าวไทยต่ำและทรงตัวถึงจุดต่ำสุดแล้ว เวลานี้ราคาข้าวขาวในตลาดเฉลี่ยนอยู่ที่ 380 -395 เหรียญสหรัฐต่อตันถือว่ามีราคาดีขึ้นและน่าจะผลักดันให้ราคาข้าวเปลือกเฉลี่ยสูงขึ้นตันละ 9,000 บาทขณะนี้ได้ แต่หากตลาดไม่ได้ราคานี้คงขึ้นอยู่กับทางกลุ่มผู้ประกอบการโรงสีแล้ว รวมทั้งดูความต้องการข้าวไทยมนตลาดโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้นและโอกาสที่ตลาดจีนจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นทุกปีและน่าจะเป็นตลาดส่งออกข้าวอันดับ 1 ของไทยได้ในเร็วๆนี้ และอีกหลายประเทศ ดังนั้น ขึ้นอยู่ภาครัฐที่จะบริหารจัดการเร่งระบายสตอกเก่าและเร่งทำตลาดข้าวไทยในตลาดโลก

“แม้ไทยจะส่งออกข้าวเหลือ 9.5 จาก 10 ล้านตันในปีนี้ โอกาสที่ไทยยังเป็นผู้ส่งออกข้าวเบอร์ 1 เป็นไปได้แน่นอน” นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกล่าว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์