ุ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้จะเชิญผู้ส่งออกข้าว ผู้ประกอบการโรงสีข้าว และผู้เกี่ยวข้องกับการค้าข้าวมาหารือเพื่อร่วมกันยกระดับราคาข้าวในประเทศให้สูงขึ้น จากปัจจุบันที่พบว่าราคาข้าวเปลือกยังไม่ปรับตัวสูงขึ้นมากนัก ทั้งที่ผลผลิตลดลงจากปัญหาภัยแล้ง และจะช่วยกันวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศไม่สูงขึ้นด้วย

สำหรับราคาข้าวเปลือกในเดือน มิ.ย.2558 ลดลงต่อเนื่องจนต่ำกว่าตันละ 8,000 บาท ส่วนราคาส่งออก แม้จะเป็นไปตามภาวะตลาดโลก ที่ราคายังไม่สูงขึ้น แต่ต้องมาหารือร่วมกันให้ชัดเจนว่า สาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะราคาข้าวเปลือกลดลง ค่าเงินบาทอ่อนค่า ความต้องการตลาดซบเซา หรือปัจจัยแฝงอื่นๆ

"ถ้ามีข้อมูลที่ชี้ชัดเจนว่า มีความพยายามทำให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของใคร ฝ่ายไหนก็ตาม ผมจะจัดการทันที แต่ตอนนี้เรียกมาคุยกันก่อนว่าต้องช่วยกันดูแล อย่าให้มีความผิดปกติเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงนี้เกษตรกรกำลังเดือดร้อนจากภัยแล้ง ผู้ประกอบการค้าข้าวจำเป็นต้องให้ความเป็นธรรมในการซื้อข้าวจากเกษตรกรด้วย" พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว

นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ทิศทางราคาข้าวน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัญหาภัยแล้ง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าผลผลิตข้าวเปลือกจะเสียหายเท่าใด และจะมีผลทำให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศสูงขึ้นหรือไม่ แม้ขณะนี้ข้าวเปลือกส่วนใหญ่ไม่อยู่ในมือชาวนาแล้ว แต่การที่ราคาข้าวเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างผิดปกติจนไม่สามารถอธิบายได้ น่าเป็นห่วงว่าอาจมีผลต่อการวางแผนการค้าในอนาคตได้

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาข้าวไม่ขยับขึ้น เป็นเพราะผู้ซื้อข้าวในประเทศ ทั้งผู้ส่งออก ผู้ผลิตข้าวสารบรรจุถุง ฯลฯ รู้ดีว่าไทยมีข้าวในสต็อกรัฐบาลมากกว่า 15 ล้านตันข้าวสาร ที่ยังไม่ได้ระบายออก ทำให้ไม่เร่งรีบซื้อข้าวมาตุน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาจะไม่ลดลงต่ำไปมากกว่านี้แล้ว โดยล่าสุดราคาข้าวขาว 5% ตันละ 11,500-11,600 บาท เพราะหลายประเทศยังต้องการข้าวไทยอยู่ เช่น ฟิลิปปินส์ หากชาวนาไม่สามารถปลูกข้าวได้ตามปกติ ราคาอาจสูงขึ้นอีก รวมทั้งในอีก 2 เดือนข้างหน้า หากอินเดีย ปากีสถานและประเทศคู่แข่งอื่นๆ เกิดภาวะภัยแล้งอย่างหนัก ราคาข้าวไทยจะสูงขึ้นอีกแน่นอน

ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์